วันนี้ (4 ธ.ค.68) เวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้ยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและมีความเห็นว่า กรณีที่โซเชียลมีเดียเผยแพร่ภาพบุคคลต่างๆโดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รมว.คลัง และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หลายคน รวมทั้งนักธุรกิจพลังงานชื่อดังถ่ายภาพมากมายหลายกิจกรรมร่วมเฟรมกับนายเบน สมิธ ซึ่งเป็นบุคคลที่ถูกหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงาน รวมทั้ง ปปง.ตรวจสอบธุรกรรมว่าเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติหรือไม่นั้น จะเป็นการคบหาสมาคมกับบุคคลต้องสงสัยของ ปปง. และหน่วยงานรัฐในกระบวนการยุติธรรมอันถือได้ว่าขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่โลกออนไลน์เผยแพร่ภาพของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ปรากฏภาพร่วมเฟรมกับ นายเบน สมิธ ขณะรับประทานอาหาร พูดคุย ดื่มไวน์ บนโต๊ะเดียวกัน ทั้งนี้ ยังมีภาพของ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและ รมว.คลัง ที่ร่วมเฟรมพูดคุยกับนายเบน สมิธ ด้วย และยังมีอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับสูงหลายท่าน บางท่านเป็นนายทุนพรรคการเมืองใหม่อดีตปลัดกระทรวงฯรวมทั้งมีนักธุรกิจพลังงานระดับต้นๆของเมืองไทยอยู่ในเฟรมภาพต่างๆหลายๆภาพ หลายๆอริยาบทด้วยนั้น

แม้นายอนุทิน และนายเอกนิติ จะออกมาปฏิเสธว่าเป็นภาพเก่าที่อาจถ่ายเมื่อหลังรัฐประหาร เมื่อปี 2557 ขณะที่มีการเดินทางไปสิงคโปร์ แล้วก็ไปเจอกับคณะของข้าราชการระดับสูงหลายท่าน โดยมีการเจอกับนายเบน สมิธ ด้วย แต่ยืนยันว่าไม่ได้คบหาแต่อย่างใดนั้น
กรณีดังกล่าว จะเป็นเรื่องบังเอิญไปพบกันได้อย่างไร คนไทยไม่ได้กินแกลบกินหญ้า หากแต่เป็นข้อพิรุธ ที่ถูกสังคมไทยวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโซเขียลต่อการปรากฎของภาพดังกล่าว ภายหลังจากที่นายกรัฐมนตรี บช.ก. และ ปปง.ได้ออกแถลงยึดทรัพย์บุคคลต่างๆ ที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมอำพรางของเครือข่ายสแกมเมอร์ไว้ตรวจสอบเพียงข้ามคืน แม้ภาพต่างๆดังกล่าวจะถูกผู้หวังดีแต่อาจประสงค์ร้ายปล่อยออกมาสู่โซเชียลฯอย่างมีพิรุธก็ตาม
แต่อย่างไรเสีย คำปฎิเสธของนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ประชาชนคงไม่อาจไว้วางใจได้ว่า จะเป็นจริงตามคำปฏิเสธดังกล่าวหรือไม่ เพราะภาษิตโบราณกล่าวไว้ว่า เมื่อมีไฟย่อมมีควันฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น เพราะพฤติการณ์ตามภาพดังกล่าวอาจเข้าข่ายการคบหาสมาคมกับคู่กรณีที่มีชื่อเสียงในทางลบ อันอาจจะเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระร่วมกันกำหนดไว้ในข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 11 ข้อ 17 และข้อ 19 ประกอบข้อ 27 ได้ อันทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อการดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้

ด้วยเหตุดังกล่าว องค์การรักชาติ รักแผ่นดิน จึงจำต้องนำความไปร้องเรียนและชี้เบาะแสให้ ป.ป.ช.ใช้อำนาจตาม พรป.ป.ป.ช.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมในการไต่สวนในเชิงลึกเพื่อพิสูจน์ทราบให้จงได้ว่า ภาพที่ปรากฎนั้นนายกรัฐมนตรี รมว.คลัง อดีตข้าราชการระดับสูงหลายท่าน นายทุนพรรคการเมือง และนักธุรกิจพลังงานชื่อดังดังกล่าว มีพฤติการหรือการกระทำที่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันอันขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ และหรือเป็นไปตามคำปฏิเสธของนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลังหรือไม่ และหลังจากนี้อาจจะต้องไปร้อง กกต.ให้ตรวจสอบพรรคการเมืองหลายพรรคที่อาจจะเกี่ยวข้องด้วย นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด
