เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 ธ.ค.68 ที่ชั้น 16 อาคารพิทักษ์สันติ บก.ปปป. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมพยาน 4 คน ได้เดินทางเข้าแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อดำเนินคดีกับ พระคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง จังหวัดปทุมธานี และพวกรวม 8 ราย ในข้อหาร่วมกันยักยอกทุจริตเงินวัดนาป่าพง เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 147, 157, 357 ประกอบมาตรา 83 และ 86
ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากการร้องเรียนเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 ให้ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ตรวจสอบกรณีพระคึกฤทธิ์ นำเงินทอดกฐินของวัดนาป่าพงไปแจกเป็นเงินโบนัสให้เจ้าหน้าที่วัดและเบิกถอนเงินออกจากบัญชีวัด ซึ่งเชื่อว่าเป็นการใช้เงินผิดประเภท
จากการตรวจสอบพบว่า มีการใช้บัญชีของวัดนาป่าพงรวม 4 บัญชี ในการกระทำความผิด ซึ่งประเด็นสำคัญคือ การเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินไม่ชอบด้วย พ.ร.บ. คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 และไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2511) เนื่องจากไม่มีไวยาวัจกรหรือบุคคลที่เจ้าอาวาสเห็นสมควรเข้าร่วมในการเปิดบัญชีและเบิกถอนเงินตามข้อกำหนด โดยเฉพาะบัญชีที่ 1 ซึ่งอ้างเป็นบัญชีวัดนาป่าพง แต่เป็นบัญชีประเภทบุคคลธรรมดาของพระมาร์ค มีการเบิกถอนเงินจาก 4 บัญชีของวัดเพื่อโอนให้บุคคลต่าง ๆ ดังนี้
1. การโอนเงิน 3 ล้านบาท ให้นายพุทธชาติ จากบัญชีที่ 4 (“จัดซื้อและพัฒนาที่ดิน” วัดนาป่าพง) ไปยังบัญชีที่ 1 (“บริหารงานคณะสงฆ์” วัดนาป่าพง) จากนั้นโอนต่อไปยังบัญชีของ นายทวีศักดิ์ ซึ่งนายทวีศักดิ์ได้นำเงินไปซื้อแคชเชียร์เช็คจ่ายให้นายพุทธชาติ จำนวน 2,455,333.29 บาท
2. การจ่ายเงินโบนัสให้เจ้าหน้าที่รวม 6.7 ล้านบาท มีการเบิกถอนเงินจากบัญชีวัดนาป่าพงหลายบัญชี เพื่อจ่ายเป็นเงินโบนัสเข้าบัญชีให้กับ นายศรชา, นายประเสริฐ, นายนิพล, และนายชัยยุทธ ในปี 2556 – 2559 รวมเป็นเงินโบนัสทั้งสิ้น 6,704,000 บาท
ทนายอนันต์ชัย ระบุว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ทั้งในฐานะตัวการและผู้สนับสนุน จึงได้ร้องทุกข์เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 8 รายตามกฎหมายต่อไป
About The Author
