นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงการณ์กรณีรื้ออาคารสน.สามเสน ว่า หลังจ…
Read Moreผู้เขียน: พรหมพิริยะ จันทร์เพ็ญ
ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง“แพรรี่-จตุรงค์”หมิ่นประมาท-ดูหมิ่นด้วยการโฆษณา” หลวงพี่น้ำฝน ในโหนกระแส ปมวิจารณ์ “ลงนะหน้าทอง”
ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง“แพรรี่-จตุรงค์”หมิ่นประมาท-ดูหมิ่นด้วยการโฆษณาR…
Read Moreตร.รวบ 2 มือพ่นสเปรย์ทับงานศิลปะสเปนระดับโลก อ้างเข้าใจผิดคิดว่าโดน“บั๊บ“ บก.น.6 ตามรวบผู้ต้องหาได้แล้ว 2 ราย ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ กรณีใช้สีสเปรย์พ่นทับงานศิลปะของศิลปินชาวสเปนระดับโลก ในกิจกรรม Krung Thep Creative Streets บริเวณซอยเจริญกรุง 30 โดยผู้ต้องหาให้การอ้างว่า เข้าใจผิดว่าเป็นงานศิลปะของกลุ่มอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน จึงตั้งใจ “บั๊บ” เพื่อประกาศศักดาของกลุ่มตนเอง ความคืบหน้าการจับกุม จากกรณีที่ กรุงเทพมหานคร ได้เข้าแจ้งความและขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุวัยรุ่น 3 คน ที่ร่วมกันพ่นสีสเปรย์ทำลายงานศิลปะในกิจกรรม Krung Thep Creative Streets ของศิลปินชาวสเปน บริเวณปากซอยเจริญกรุง 30 เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. ดูแลงานสืบสวน, พล.ต.ต.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6), พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผู้กำกับการ สน.บางรัก, พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผู้กำกับการสืบสวน บก.น.6 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนพรหม ธนอาภากร รอง ผกก.สส.สน.บางรัก และชุดสืบสวน สน.บางรัก ติดตามจับกุมผู้ต้องหา คดีทำให้เสียทรัพย์ฯ ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายปรเมฆ หรือ เมฆ (สงวนนามสกุล)ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ987/2568 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2568 และ นายชิติสรรค์ (สงวนนามสกุล) หรือ พู ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ988/2568 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2568 จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การว่า ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาบริเวณดังกล่าว และเห็นภาพวาดศิลปะแล้ว เข้าใจผิดคิดว่าเป็นผลงานของกลุ่มอื่นกลุ่มหนึ่งซึ่งมีลักษณะคล้ายกล่อง จึงมีความตั้งใจที่จะ “บั๊บ” (พ่นทับ) เพื่อเป็นการประกาศศักดาและแสดงผลงานของกลุ่มตนเองว่าทำได้ดีกว่า ทั้งคู่จึงได้ไปหาซื้อกระป๋องสีดำ 2 กระป๋อง และสีบรอนซ์เงิน 2 กระป๋อง มาใช้ก่อเหตุพ่นทับงานศิลปะดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำโดยพนักงานสอบสวน สน.บางรัก เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
บก.น.6 ตามรวบผู้ต้องหาได้แล้ว 2 ราย ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ กรณีใช้สีสเปรย์พ่นทับงานศิ…
Read Moreกองทัพภาคที่ 2 จัดพิธีส่งมอบหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2 อย่างสมเกียรติ “พลโทบุญสิน พาดกลาง” อำลาตำแหน่ง ส่งต่อภารกิจให้ “พลโท วีระยุทธ รักศิลป์” สานต่อภารกิจพิทักษ์แผ่นดินอีสาน เมื่อวันที่ 2 ต.ค.2568 ที่ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา กองทัพภาคที่ 2 กองทัพบก จัดพิธีรับ–ส่งหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2 อย่างสมเกียรติ โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ทำพิธีส่งมอบหน้าที่ให้แก่ พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ ซึ่งจะเข้ารับหน้าที่สานต่อภารกิจในการพิทักษ์อธิปไตย รักษาความมั่นคง และดูแลประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ในช่วงเช้าได้จัดให้มีพิธีสงฆ์เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมีพระธรรมวชิรเมธี เจ้าคณะภาค 1 เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม ราชวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมคณะพระภิกษุสงฆ์ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์และให้พร เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่แม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ กำลังพล และครอบครัว ก่อนเข้าสู่พิธีการรับ–ส่งหน้าที่อย่างเป็นทางการในภายหลัง พิธีดำเนินต่อด้วยการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 อาทิ พระศรีสัมพุทธโมลี อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) พระพุทธวิชัยเสนีย์นาถ ศาลพระนครราช ตลอดจนพิธีถวายสักการะอนุสาวรีย์วีรไทย พระบรมรูปสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อแสดงความเคารพและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ รวมถึงจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญและความเสียสละของบรรพชนทหารไทย ภายหลังพิธีสักการะ ทั้งสองนายทหารได้ร่วมลงนามในเอกสารรับ–ส่งหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2 ณ ห้องประชุมกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 จากนั้นได้เคลื่อนขบวนไปยังลานหน้าสโมสรร่วมเริงไชย เพื่อประกอบพิธีส่งมอบ “ธงประจำหน่วย” ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการถ่ายทอดอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบ และเกียรติภูมิในการบังคับบัญชากำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ในโอกาสนี้ยังได้จัดพิธีสวนสนามของหมู่ธงประจำหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 2 จำนวน 83 หมู่ธง เพื่อเป็นเกียรติแก่แม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ โดยมีข้าราชการทหารและสมาชิกสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 เข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางบรรยากาศที่เปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ ความศรัทธา และความสามัคคีของเหล่ากำลังพล สำหรับ พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 คนที่ 45 จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 26 และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 37 (จปร.37) เคยดำรงตำแหน่งสำคัญมาแล้วหลายตำแหน่ง อาทิ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 16 ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และรองแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งล้วนเป็นประสบการณ์อันทรงคุณค่าที่จะนำพากองทัพภาคที่ 2 เดินหน้าสู่ภารกิจอันทรงเกียรติต่อไป พิธีรับ–ส่งหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2 ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญของกองทัพภาคที่ 2 ในการสืบสานภารกิจอันทรงเกียรติ เพื่อธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยของประชาชน และเกียรติภูมิของกองทัพบกไทยให้ยั่งยืน
“พลโทบุญสิน พาดกลาง” อำลาตำแหน่ง ส่งต่อภารกิจให้ “พลโท วีระยุทธ รักศิลป์” สานต่อภารกิจพิทั…
Read Moreศึกจักรยานทรงตัว Grandprix Runbike Championship 2025 สนาม 5-6 นักปั่นตัวน้อยมุ่งสู่เป้าหมาย ชิงแชมป์ “ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” เมื่อวันที่ 27-28 ก.ย. 2568 การแข่งขันจักรยานทรงตัวระดับประเทศ “Grandprix Runbike Championship Partnership with R.C.S. 2025” สนาม 5-6 (Event 3) ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน โดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ร่วมกับพันธมิตร R.C.S. ซึ่งได้รับความสนใจจากนักปั่นรุ่นเยาว์หลายช่วงอายุและครอบครัวทั่วประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันกันอย่างคึกคัก จนแน่นขนัดเต็มพื้นที่จัดงาน บรรยากาศในสนามอบอวลไปด้วยพลังและความมุ่งมั่นของนักปั่นตัวน้อย ท่ามกลางเสียงเชียร์ดังกึกก้องจากผู้ปกครองและผู้เข้าชม ที่ร่วมกันส่งกำลังใจให้เยาวชนทุกคนมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ การเข้าชิงเกียรติยศสูงสุด “ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” อันเป็นพระมหากรุณาธิคุณและความภาคภูมิใจสูงสุดของ คณะผู้จัดฯ นักกีฬา และครอบครัว การแข่งขันในแต่ละรุ่นเต็มไปด้วยสีสัน ทั้งความจริงจังดุเดือดในแบบมืออาชีพ และความน่ารักสดใสที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมรอบสนาม น้อง ๆ นักปั่นได้แสดงให้เห็นถึงสมาธิ ความคล่องแคล่ว และความกล้าหาญที่น่าชื่นชม ขณะเดียวกันยังได้เรียนรู้คุณค่าของการเป็นนักกีฬา ไม่ว่าจะเป็นการรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ควบคู่ไปกับการใช้เวลาคุณภาพร่วมกันของครอบครัว ภายในงานยังอัดแน่นไปด้วยกิจกรรมสร้างความสุขและความคึกคัก ทั้งบูธกิจกรรมจากผู้สนับสนุนที่มอบทั้งสาระ ความสนุก และของรางวัลมากมาย รวมถึงการแสดงโชว์จาก About P Training Center โดยนักเรียนในหลักสูตร Pre-Trainee Program ที่โชว์ความสามารถได้อย่างเข้มข้นและน่าประทับใจ จนเรียกเสียงกรี๊ดจากเด็ก ๆ และแฟนคลับ T-Pop อย่างต่อเนื่อง ไฮไลต์สำคัญของงาน อยู่ที่พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติ ซึ่งนักกีฬาเยาวชนที่ทำผลงานโดดเด่นในแต่ละรุ่น ได้รับทั้งถ้วยรางวัล เหรียญ และของที่ระลึก โดยเฉพาะรอยยิ้มและความภาคภูมิใจที่สะท้อนชัดบนใบหน้าของเด็ก ๆ และครอบครัว นับเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่มีคุณค่าตลอดชีวิต และทันทีที่ปิดสนาม 5-6 ความตื่นเต้นพร้อมพุ่งตรงสู่ สนามปิดฤดูกาล (Event 4) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2568 ณ สวนกีฬากมล ซึ่งจะเป็นรอบชี้ชะตาครั้งสำคัญในการลุ้นแชมป์ประจำปี และชิงเกียรติยศสูงสุด “ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” สามารถติดตามรายละเอียดการแข่งขันและบรรยากาศเพิ่มเติมได้ทาง เพจ Grandprix Runbike Championship และช่องทางโซเชียลมีเดียในเครือกรังด์ปรีซ์ฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) คุณทิพย์รัตน์ (อ้อ) ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร. 084-075-4717
ศึกจักรยานทรงตัว Grandprix Runbike Championship 2025 สนาม 5-6 นักปั่นตัวน้อยมุ่งสู่เป้าหมา…
Read Moreเปิดเมนู นายกฯ “อนุทิน” ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับกำลังพล สอบถามความเป็นอยู่ด้วยความห่วงใย ให้คำมั่นจะดูแลกองทัพและกำลังพลอย่างดี เวลา 14.00 น. วันที่ 3 ต.ค.68 ที่ฐานปฏิบัติการสามแยก กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางไปตรวจภูมิประเทศและเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพล พร้อมร่วมรับประทานอาหารกลางวันจากถาดหลุมกับกำลังพลในพื้นที่ นายกรัฐมนตรี ยังสอบถามความเป็นอยู่ด้วยความห่วงใย พร้อมให้คำมั่นว่า รัฐบาลสนับสนุนกองทัพ เจ้าหน้าที่ทั้งด้านสวัสดิการ และอุปกรณ์ เครื่องมือในการปฏิบัติงาน เพื่อให้กำลังพลผู้ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนสามารถทำงานได้อย่างมั่นใจ และเต็มที่ในการปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ และฝากให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้าที่ด้วยความปลอดภัย จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับกำลังพล โดยเมนูอาหารในครั้งนี้ประกอบด้วย ไข่พะโล้ ยำปลากระป๋อง ต้มจับฉ่ายกระดูกอ่อน ผัดมาม่า พร้อมด้วยเมนูของหวาน อาทิ กล้วยน้ำว้า เครื่องดื่ม น้ำชาและกาแฟ โดยช่วงหนึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้ตักไข่พะโล้ให้กับนายทหารที่นั่งร่วมโต๊ะ ด้วยบรรยากาศอย่างเป็นกันเอง
เปิดเมนู นายกฯ “อนุทิน” ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับกำลังพล สอบถามความเป็นอยู่ด้วยความห่วง…
Read More”บิ๊กโจ๊ก“ ทวงถามความคืบหน้าคดีสอบวินัย ปธ.ศาลปกครองสูงสุด ปมแทรกแซงคดี จ่อฟ้อง ผู้บริหารศาลปกครองสูงสุดอีกราย วันที่ 3 ต.ค. 68 ที่ศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล (บิ๊กโจ๊ก) อดีตรอง ผบ.ตร. มายื่นหนังสือเพื่อติดตามความคืบหน้า กรณีการแจ้งดำเนินกาคทางวินัย กับประธานศาลปกครองสูงสุดและประธานแผนกคดีฯ โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า วันนี้ ตนเองมาติดตามความคืบหน้าคดี ที่ได้ยื่นดำเนินคดีทางวินัยกับผู้บริหารศาลปกครองทั้ง 2 ท่าน เพราะมีพฤติกรรมประวิงเวลา เพื่อริให้มีการเปลี่ยนแปลงองค์คณะเจ้าของสำนวนคดีใหม่ เนื่องจากตุลาการในองค์คณะเกษียณแล้ว 4 ท่าน และต้องมีการแต่งตั้งตุลาการคนใหม่ เข้ามาทำหน้าที่แทน ทำให้ตนเองกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะขนาดคำขอทุเลาการบังคับคดี ยังมีการแทรกแซง เปลี่ยนผลการพิจารณาขององค์คณะเจ้าของสำนวน เป็นการลงมติโดยที่ประชุมใหญ่ของตุลการศาลปกครองสูงสุดแทน ทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย ส่วนคดีที่ได้ยื่นฟ้อง ผู้บริหารศาลปกครองสูงสุด 2 ท่านไว้ที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ นั้น ก็จะได้มีการนำเอกสาร ที่มาติดตามความคืบหน้าคดี ไปยื่นเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังบอกด้วยว่า ในสัปดาห์หน้า จะไปยื่นฟ้อง ตุลาการศาลปกครองสูงสุดท่านหนึ่ง ที่ออกมาพูดพูดกับเจ้าหน้าที่ศาลว่า “ฉันเกลียดไอ้โจ๊กมันนะ” ซึ่งเป็นเรื่องผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะว่า การพิจารณาอรรถคดี เป็นการพิจารณาในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้นจะต้องพิจารณาคดีอย่างปราศจากอคติและมีความเป็นกลาง โดยจะนำพยานบุคคล ไปขึ้นเบิกความในชั้นศาล /////
”บิ๊กโจ๊ก“ ทวงถามความคืบหน้าคดีสอบวินัย ปธ.ศาลปกครองสูงสุด ปมแทรกแซงคดี จ่อฟ้อง ผู้บริหารศ…
Read Moreสว.สำรอง แจ้งความดำเนินคดี กกต.และ เลขา กกต. ม.157 สอบคดีฮั้วเลือก สว.ล่าช้า ! เมื่อวันที่ 3 ต.ค.68 ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นายอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล สมาชิกวุฒิสภาสำรอง พร้อมด้วยทีมทนายความ เดินทางมายื่นร้องทุกข์กล่าวโทษคณะกรรมการการเลือกตั้งทั้งคณะ รวมถึงนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ว่าร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จนทำให้กระบวนการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ที่ผ่านมาเสียหายอย่างร้ายแรง ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อขอให้ดำเนินคดีอาญากับ กกต. และ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ในข้อหาอาจมีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในการเลือกตั้ง สว. รอบที่ผ่านมา โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับ กกต.และ เลขาธิการ กกต.ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.ป. ว่าด้วย ป.ป.ช. มาตรา 172 รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าอาจมีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในการเลือกตั้ง สว. รอบที่ผ่านมา นายอัครวัฒน์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่การเล่นการเมือง แต่เป็นการปกป้องหลักการประชาธิปไตย และในฐานะผู้มีส่วนได้เสียในกระบวนการเลือกตั้งวุฒิสภา มีสิทธิ์ที่จะติดตามและเรียกร้องให้ความจริงถูกเปิดเผย คดีที่มีหลักฐานปรากฏตั้งแต่แรกกลับถูกปล่อยให้ยืดเยื้อนานนับเดือนนับปี โดยที่ กกต.ไม่ได้เร่งตรวจสอบหรือชี้แจงข้อมูลต่อประชาชน ทั้งที่มีสำนวนการสืบสวนเบื้องต้นอยู่ในมือแล้ว นอกจากนี้ยังแสดงความกังวลต่อการแต่งตั้งบุคคลในกระทรวงยุติธรรมที่อาจส่งผลกระทบต่อความเป็นอิสระของกระบวนการยุติธรรม โดยเกรงว่าการเปลี่ยนตัวบุคคลในบางตำแหน่งอาจกลายเป็นการแทรกแซงทางอ้อม “ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค. 2567 ซึ่งเป็นวันที่มีประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจนถึงปัจจุบัน เวลากว่าปีได้ล่วงไป แต่ กกต. ยังไม่สามารถชี้แจงหรือแก้ไขข้อสงสัยได้ ทั้งที่มีกระแสสังคมและหลักฐานจำนวนมากบ่งชี้ถึงการทุจริต ที่ผ่านมาเราทวงถาม กกต.มาตลอด แต่ไม่เคยได้รับคำตอบที่ชัดเจน ประชาชนจึงยังไม่ได้รับความเป็นธรรม คดีต่างๆ ถูกปล่อยให้ยืดเยื้อ ทั้งที่ความจริงหลายเรื่องปรากฏชัดแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นในระบบประชาธิปไตย ทุกคนคาดหวังว่าการเลือกตั้ง สว. จะต้องสุจริต เที่ยงธรรม และเป็นไปตามระเบียบของ กกต. แต่สิ่งที่ปรากฏกลับตรงกันข้าม”นายอัครวัฒน์ กล่าว นายอัครวัฒน์ ยังเรียกร้องให้สังคมจับตา และให้กำลังใจผู้ที่ต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อเปิดเผยความจริง พร้อมทั้งผลักดันให้ผู้ที่มีพฤติการณ์ผิดกฎหมายต้องรับผิดชอบ พร้อมขอให้ กกต.เปิดเผยสำนวนและหลักฐานต่อสาธารณะ หากไม่มีเหตุผลสมควรในการปกปิด และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้ามาสืบสวนโดยไม่ถูกแทรกแซง โดยขอให้ประชาชนติดตามและร่วมกันผลักดันความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรม
เมื่อวันที่ 3 ต.ค.68 ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นายอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล สมาชิกวุฒิสภาสำรอง พร้…
Read Moreรองเต่า เผย ผบช.ก.สั่งรวมเรื่องวัดนาป่าพง เป็นคดีเดียวกันโดยให้ ปปป.เป็นผู้รับผิดชอบ ภายหลังสอบปากคำสีกายุ นานกว่า 1 ช.ม. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยว่า เป็นเรื่องการสอบปากคำเพิ่มเติม ครั้งที่แล้วสอบไว้ในรายละเอียดตั้งแต่มาร้องทุกข์แจ้งความกล่าวโทษดำเนินคดี วันนี้ได้นำเอกสารเพิ่มเติมที่มีการเคลื่อนไหวของเงินที่อยู่ในมูลนิธิฯ ไปสู่กองทุนซึ่งเป็นเรื่องเดียวกัน เมื่อวานตนได้คุยรายละเอียดกับ ผบก.ปปป. และ ผกก.สรุปรวมเป็นเรื่องเดียวกันกับที่ส่งไปที่ ป.ป.ช. เรามาพิจารณาเป็นเรื่องๆ เราดูตั้งแต่ต้นทางเงินที่ออกมาจากวัด ผ่านบัญชีบุคคลผ่านสู่ สีกายุ แล้วปลายทางไปสู่กองทุนแห่งหนึ่ง รู้ว่าตั้งแต่ต้นทางเป็นความผิดหรือไม่ แล้วพอไปสู่ทางเป็นคดีเกี่ยวข้องกับนอกราชอาณาจักรด้วย ก่อนที่เงินจะลงไปในกองทุน ดูว่ามันผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ซึ่งตำรวจจะไปดูตรงจุดนี้ ต้องหาข้อมูลบางส่วนตรงจุดนี้ กองปราบได้ดำเนินการขอสเตทเม้นท์ที่เกี่ยวข้อง สเตทเม้นท์อันไหนที่เราต้องการขอไปรวมประมาณ 10 ปี โดยขอเป็นเคสๆ ทางกองบังคับการปราบปรามกำลังรวบรวมสเตทเม้นท์ ซึ่งทางผู้บัญชาการได้ให้ส่งเรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาที่ กก.2 บก.ปปป. รับผิดชอบทำคดีเพียงหน่วยเดียว สเตทเม้นท์ ส่วนใหญ่ ที่ขอไปจะได้มาในวันจันทร์อังคารนี้ ซึ่งจะได้ตรวจสอบข้อมูลตามที่ทนายมาร้องไว้ เรื่องโอนที่ดินมีการฟ้องร้องกันจบไปแล้วแต่ประเด็นกำลังดูว่าผิดกฎหมายหรือไม่กำลังตรวจสอบอยู่ ที่มีการโอน ให้วัดแต่กลายเป็นชื่อพระคึกฤทธิ์ ผู้ที่บริจาคให้มองว่าไม่ตรงวัตถุประสงค์ซึ่งมีการฟ้องร้องและเอากลับไปเป็นข้อกฎหมายว่าผิดหรือไม่อย่างไรต้องไปตรวจสอบกันก่อน ส่วนเรื่องรถ เงินกฐิน ทาง บช.ก.จะทำเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา แต่ต้องขอเวลาเนื่องจากหลักฐานที่ให้มา เป็นแค่เพียงแนวทางการสืบสวนสอบสวน แต่เวลาเราทำงานจะต้องขอสเตทเม้นท์ใหม่รื้อมาใหม่เพื่อทำงานตำรวจจะต้องทำโดยมีพยานหลักฐานมีการสอบปากคำเพิ่มเติมขอเวลาในการทำสักนิดทำไวไม่ได้จะต้องประสานกับธนาคาร และบริษัท หรือผู้เกี่ยวข้อง ทั้งหมดที่ให้การ ขณะนี้ยังไม่มีการเชิญพระคึกฤทธิ์มาให้ปากคำขอเวลาตรวจดูพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน ว่าจะต้องดำเนินการอะไรอย่างไรบ้าง ส่วนกรณีที่สีกายุ แจ้งว่ามีกลุ่มบุคคล ติดตามเธอไปยังบ้านพักนั้น พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าวว่าได้ขอรายละเอียดจากเจ้าตัวมาแล้ว คลิปภาพวิดีโอที่บันทึกได้รวมทั้งทะเบียนรถกำลังให้ทำการตรวจสอบอยู่ว่ามาเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง ทราบว่าทางเจ้าตัวได้ร้องให้ทางกรมคุ้มครองคดีมาช่วยดูแลส่วนหนึ่งแล้วทาง บช.ก. เราก็จะช่วยดูแลอีกส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งทางเจ้าตัวยินดีให้ข้อมูลกับเราเราก็ยินดีที่จะส่งคนไปช่วยคุ้มครองดูแลความปลอดภัยให้กับเธอด้วย
ภายหลังสอบปากคำสีกายุ นานกว่า 1 ช.ม. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยว่า เป็น…
Read Moreปอศ.ทลายแหล่งส่งออก “นาฬิกาปลอมเกรดพรีเมี่ยม” กลางกรุง ยึดกว่า 800 เรือน มูลค่าความเสียหายทะลุ 50 ล้านบาท กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เดินหน้ากวาดล้างสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บุกทลายแหล่งจำหน่ายนาฬิกาปลอมแบรนด์หรู ย่านสัมพันธวงศ์ กลางกรุงเทพมหานคร ยึดของกลางรวมกว่า 809 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 50 ล้านบาท พร้อมรวบผู้ต้องหาได้ 3 ราย การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เป็นไปตามการสืบทราบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ว่ามีการลักลอบจำหน่ายนาฬิกาปลอมเครื่องหมายการค้า โดยโฆษณาขายผ่านช่องทางออนไลน์และเว็บไซต์ในราคาสูงถึง “เรือนละกว่าสองหมื่นบาท” อ้างเป็น “นาฬิกาเกรดท็อปสุด” ที่เหมือนของแท้ โดยมีพฤติการณ์ส่งออกไปยังต่างประเทศ ปฏิบัติการค้น 3 จุด ยึดของกลางกว่า 20 แบรนด์หรู ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. พร้อมด้วยตัวแทนผู้ปกป้องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา ได้นำหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าตรวจค้นร้านค้าไม่มีชื่อในอาคารตลาดกลางกรุง ย่านสัมพันธวงศ์ จำนวน 3 จุดตรวจค้น ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย น.ส.จิรัฏฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี, นายชาตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี, และ นายมนัสพันธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี โดยทั้ง 3 รายรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดนาฬิกาปลอมเครื่องหมายการค้าไว้เป็นของกลางรวมจำนวน 809 ชิ้น ครอบคลุมแบรนด์หรูระดับโลกกว่า 20 รายการ อาทิ TAG Heuer, Panerai, Patek Philippe, Rolex, Hublot, Omega, Audemars Piguet, Louis Vuitton และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งนาฬิกาส่วนใหญ่ถูกซุกซ่อนไว้ภายในร้านค้าดังกล่าว ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกดำเนินคดีในฐานความผิด “มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร” และถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป CIB เตือนภัยซื้อ “นาฬิกาปลอม” เสี่ยงต่อสุขภาพ ทรัพย์สิน และเป็นภัยต่อเศรษฐกิจ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ออกมาเน้นย้ำถึงอันตรายของการซื้อและจำหน่ายนาฬิกาปลอม โดยระบุว่าปัญหาดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง ไม่เพียงแต่ต่อความเสียหายทางเศรษฐกิจในระดับมหภาคและภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของการลงทุนในระดับนานาชาติ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อผู้บริโภคด้วย -ภัยต่อสุขภาพ นาฬิกาปลอมมักผลิตจากวัสดุคุณภาพต่ำ ซึ่งอาจมีสารเคมีหรือโลหะที่ก่อให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองผิวหนัง -ความเสียหายทางทรัพย์สิน สินค้าเหล่านี้มีความทนทานต่ำ ชำรุดง่าย และไม่มีการรับประกันที่น่าเชื่อถือ ทำให้ผู้ซื้อต้องมีภาระค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนในการซ่อมแซมหรือซื้อใหม่ -สนับสนุนอาชญากรรม การซื้อสินค้าปลอมเป็นการสนับสนุนห่วงโซ่อาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและธุรกรรมผิดกฎหมายระดับสากล ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ CIB ยืนยันว่า จะดำเนินการกวาดล้างสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวด และขอความร่วมมือประชาชน หากพบเบาะแสการจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมในลักษณะเดียวกัน สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ เว็บไซต์ https://cib.go.th/ หรือ Facebook ตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อร่วมกันสร้างความตระหนักรู้และป้องกันภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเ…
Read More