กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมกับ ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แถลงผลการปฏิบัติการครั้งสำคัญในชื่อ “Cut Down Scam – สยบเครือข่ายค้าข้อมูลส่วนบุคคล” โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย และตรวจพบข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนที่รั่วไหลและถูกนำไปซื้อขายในตลาดมืดรวมกว่า 9 ล้านรายชื่อ ซึ่งเชื่อมโยงกับคดีฉ้อโกงออนไลน์หลายพันคดี

ปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พ.ย.68 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เข้าตรวจค้นเป้าหมายรวม 8 จุด ใน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย, อุดรธานี, สระบุรี, ปทุมธานี, สมุทรสาคร, ประจวบคีรีขันธ์, ชลบุรี และภูเก็ต
ผลการตรวจค้นนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาได้รวม 6 คน ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นผู้เก็บรวบรวม ครอบครอง หรือเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล…เพื่อนำไปใช้หรือให้บุคคลอื่นใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด กระทำโดยการซื้อ เสนอซื้อ ขาย เสนอขาย แลกเปลี่ยน เสนอแลกเปลี่ยน หรือแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย” ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 มาตรา 11/2

ของกลางที่ตรวจยึดได้ประกอบด้วย เครื่องคอมพิวเตอร์ 6 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 17 เครื่อง , อุปกรณ์สำรองข้อมูล 9 เครื่อง , สมุดบัญชีธนาคาร 7 บัญชี และสิ่งของอื่น ๆ
การสืบสวนขยายผลจากปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์, พนันออนไลน์, หลอกลงทุน) ซึ่งคนร้ายมักทราบข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหายอย่างละเอียด ทำให้เชื่อว่ามีการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลเกิดขึ้น

กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) สืบทราบพบว่ามีการประกาศขายข้อมูลผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ “การตลาดสายเทา” ในราคาประมาณ 3,000-5,000 บาท ต่อ 100,000 รายชื่อ โดยข้อมูลประกอบด้วย ชื่อ-สกุล, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, บัญชีไลน์, บัญชีธนาคาร ฯลฯ
เจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อข้อมูลจากสมาชิกเพจ 7 ราย พบว่าเป็นข้อมูลจริงรวมกว่า 2.3 ล้านรายชื่อ เมื่อตรวจสอบรายชื่อที่ได้จากการล่อซื้อ พบว่าเป็นผู้เสียหายที่เคยแจ้งความคดีหลอกลวงออนไลน์ผ่านระบบ Thai police online แล้วถึง 4,630 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 298 ล้านบาท

จากการสอบถาม ผู้ต้องหาสารภาพว่าข้อมูลส่วนใหญ่ได้มาจากกลุ่มที่ลักลอบทำ เว็บพนันออนไลน์ และ แอปพลิเคชันกู้เงินออนไลน์ ผิดกฎหมาย ก่อนนำมาขายต่อในตลาดมืดออนไลน์ และจากการตรวจสอบของกลางเพิ่มเติม พบข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บไว้อีกกว่า 6 ล้านรายชื่อ รวมข้อมูลที่รั่วไหลทั้งหมดที่พบในปฏิบัติการนี้คือ ประมาณ 9 ล้านรายชื่อ
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนภัยให้ประชาชน เพิ่มความระมัดระวัง ในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทางออนไลน์ และขอให้ ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ของผู้ขอข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นการอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือบริษัทเอกชน เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลถูกนำไปใช้ในลักษณะที่ผิดกฎหมาย บุคคลที่ใช้ เก็บรวบรวม ซื้อ หรือจำหน่าย ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดตามกฎหมาย

สำหรับประชาชนที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป. โทร 093-318-9090 หรือ พ.ต.ท.กิตติพงศ์ ศิลาพันธุ์ รอง ผกก.4 บก.ป. โทร 063-391-9153
