ศาลฎีกา แก้โทษปรับ ฟิลลิป มอริสฯ เลี่ยงภาษีบุหรี่ รวม 20 ล้านบาท คงยกฟ้องจำเลยที่ 2
วันที่ 9 ต.ค.68 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส ไทยแลนด์ ลิมิเต็ด จำกัด โดย นายเจอรัลด์ มาร์โกลีส ผู้จัดการสาขา ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด และอดีตพนักงานบริษัทหญิงคนไทย (สงวนชื่อ-สกุล) เป็นจำเลยที่ 1 และ2 ฐาน “ร่วมกันนำเข้าบุหรี่ที่มีแหล่งผลิตในต่างประเทศ เข้าราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยมีเจตนาหลีกเลี่ยงภาษี เพื่อฉ้อค่าภาษีสรรพสามิต” ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469
โดยอัยการโจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อระหว่างวันที่ 22 มกราคม 2545 -14 สิงหาคม 2546 จำเลยที่ 1 และ2 กับพวกที่หลบหนียังไม่ได้นำตัวมาฟ้องอีกหลายคน ร่วมกันนำบุหรี่ยี่ห้อ L&M และยี่ห้อมาร์ลโบโร เข้ามาในราชอาณาจักรไทย และได้ร่วมกันสำแดงเท็จโดยความเท็จ โดยฉ้อโกง และอุบายด้วยการยื่นใบขนสินค้าขาเข้าต่อเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร เพื่อผ่านพิธีการศุลกากร ซึ่งรวมราคาเป็นเท็จไม่ตรงตามราคาที่แท้จริง และถูกต้องตามกฎหมายศุลกากร จำนวน 780 ครั้ง
คดีนี้ ศาลอาญามีคำพิพากษาให้ปรับ บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด จำเลยที่ 1 ตามอัตรากฎหมายที่แก้ไขใหม่ เป็นเงินทั้งสิ้น 130 ล้านบาท และยกฟ้องพนักงานหญิงจำเลยที่2
ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับ บริษัท ฟิลิป มอร์ริส( ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด จำเลยที่ 1 ตามอัตรากฎหมายที่แก้ไขใหม่ จำนวน 2.5 เท่า โดยให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปคำนวณค่าอากรเป็นจำนวนเงินที่แท้จริงอีกครั้ง ส่วนจำเลยที่ 2 ยกฟ้อง
ล่าสุด ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดฐาน “นำของผ่านพิธีการศุลกากร เข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยง หรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากรโดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสีย” ตามพระราชบัญญัติศุลกากร
พ.ศ.2469 มาตรา 27 ประกอบพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243 วรรคหนึ่ง รวม 318 กระทง ให้ลงโทษปรับจำเลยที่ 1 รวม 318 กระทง ๆ ละเป็นเงินจำนวนใกล้เคียงกับสองเท่าครึ่งของค่าอากรที่ต้องเสียเพิ่ม ซึ่งรวมทั้ง 318 กระทงแล้ว ปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงินจำนวน 20 ล้านบาท นอกจากที่แก้ ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์