ตามนโยบายของรัฐบาล ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์
ของประชาชน โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดชผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง จตช. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรพลเปรมบุตร ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว

วันศุกร์ที่ 26 ธ.ค.68 ที่ บริเวณชั้น 1 บก.สอท.2 นำโดย พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท.,พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.คมกฤช สุขไทย ผบก.สอท.3,พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ผบก.สอท.5 และ พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ตอท., พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.ปรีดา คงจัด รอง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.ณัฐภณ จินตะนานุช รอง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล รอง ผบก.สอท.1, พ.ต.อ.รชตโชค ลีวาณิชคุณ รอง ผบก.สอท.1 และ พ.ต.อ.กฤช กัญชนะ รอง ผบก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตร.ไซเบอร์กวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์เข้มรับปีใหม่ เปิดปฏิบัติการ “ทลายรังยึดทรัพย์มังกรเทา” ขยายผลจากคดีแก๊งไฮบริดสแกม ยึดทรัพย์กว่า 180 ล้าน
สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ.2566 ตำรวจไซเบอร์ได้สืบสวนสอบสวนคดีที่มีการกระทำความผิดเชื่อมโยงกันของคดีที่เกิดขึ้นจำนวนหลายคดี ทั้งคดีอาญาของ สน.ศาลาแดง ที่ 452/2565, คดีอาญาของ สน.ดินแดง ที่ 462/2564และคดีอาญาของ สภ.หนองขาม จว.ชลบุรี ที่ 727/2564 ซึ่งเป็นกรณีผู้เสียหายถูกหลอกลงทุนในลักษณะ Hybrid Scam หรือ Pig Butchering Scam โดยคนร้ายใช้วิธีสุ่มติดต่อหาประชาชนผ่านแพลตฟอร์มสื่อโซเชียลต่างๆ

แล้วชักชวนพูดคุยให้เกิดความเชื่อใจ จากนั้นคนร้ายจะสอนการลงทุนเทรดคริปโตเคอเรนซีอ้างว่าลงทุนแล้วได้ผลกำไรดี แล้วหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชีม้า อ้างว่าเพื่อแลกเปลี่ยนเงินบาทเป็นเงินสกุลดิจิทัล เพื่อโอนเข้า
แอปเทรดเหรียญดิจิทัลปลอมต่อไป
ในส่วนคดีอาญาของ สน.ศาลาแดง ที่ 452/2565 ได้นำไปสู่การเปิดปฏิบัติการ “Trust No One” EP.1–5
เมื่อปี พ.ศ.2566 ซึ่งในขณะนั้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวจีน นายเซาเซียน ซู (Mr.Shaoxian Su) กับพวก และ ยึดทรัพย์ได้กว่า 2,000 ล้านบาท โดยการเฉลี่ยทรัพย์เพื่อคืนเงินผู้เสียหายกำลังอยู่ในการพิจารณาในชั้นศาล
ในส่วนคดีอาญาของ สน.ดินแดง ที่ 462/2564 ได้นำไปสู่การเปิดปฏิบัติการ “The Purge” เมื่อปี พ.ศ.2567 สามารถจับกุมชาวจีนพร้อมเครือข่าย และสามารถตรวจยึดเงินสด จำนวน 80 ล้านบาท พร้อมทรัพย์สินอื่นๆ รวมทั้งสิ้นกว่า 250 ล้านบาท
ในส่วนคดีอาญาของ สภ.หนองขาม จว.ชลบุรี ที่ 727/2564 ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนของตำรวจไซเบอร์ในปัจจุบัน พล.ต.ท.สรุพล เปรมบุตร ผบช.สอท. ได้สั่งการให้สืบสวนขยายผล จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นได้แล้ว จำนวน 4 คน และ ยังตรวจพบทรัพย์สินที่คาดว่าได้มาจากการกระทำผิดอีกจำนวนมาก จึงได้ประสานงานร่วมกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ออกคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีนี้ไว้ชั่วคราว ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย.293/2568 ลงวันที่ 2 ธ.ค.68 เพื่อยึดอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ

ต่อมา เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.68 ตำรวจไซเบอร์ได้เปิดปฏิบัติการ “ทลายรังยึดทรัพย์มังกรเทา” โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายสิบนายเข้าตรวจค้นเป้าหมายสำคัญ จำนวน 4 จุด ได้แก่
1. ห้องพัก จำนวน 2 ห้อง ในคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ซอยสุขุมวิท 61 แยก 1 แขวงพระโขนงใต้ เขตพระโขนง กทม.
2. บ้านพักมูลค่ากว่า 38 ล้านบาท ในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 ถ.กาญจนาภิเษก แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กทม.
3. ห้องพักของคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ย่านพร้อมพงษ์ ซอยสุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม.
4. ห้องพักของคอนโดหรูแห่งหนึ่ง ในซอยต้นสน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
จากการตรวจค้น สามารถตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินต่างๆ ได้แก่
– อสังหาริมทรัพย์มูลค่ารวมกว่า 166 ล้านบาท
– ธนบัตรดอลลาร์สหรัฐ มูลค่า 102,900 ดอลลาร์
– ธนบัตรจีน มูลค่า 55,000 หยวน
– กระเป๋าแบรนด์เนม จำนวน 33 ใบ
– รองเท้า ลักษณะคล้ายยี่ห้อ Louis Vuitton จำนวน 3 คู่
– รถยนต์ Toyota Alphard จำนวน 1 คัน
– นาฬิกาหรู จำนวน 2 เรือน
– สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 10 เล่ม
– อุปกรณ์บันทึกภาพกล้องวงจรปิด จำนวน 3 เครื่อง
– อุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณ จำนวน 1 เครื่อง
– เมมโมรีการ์ด จำนวน 2 อัน
– โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง
– คอมพิวเตอร์ MacBook จำนวน 2 เครื่อง
– อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก (External Drive) จำนวน 5 เครื่อง
– เอกสารสำคัญต่างๆ
รวมทรัพย์สินที่ตรวจยึดและอายัดได้ทั้งหมด รวมมูลค่าประมาณ 180 ล้านบาท

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบอีกว่า เครือข่ายดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติไม่ว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บไซต์พนันออนไลน์ ซึ่งมียอดเงินหมุนเวียนในเครือข่ายสูงกว่า 30,000 ล้านบาทต่อปี โดยขณะนี้ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างการเร่งสืบสวนขยายผล หากตรวจสอบแล้วพบพยานหลักฐานว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดจริง ก็จะตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อนำมาเฉลี่ยทรัพย์คืนให้แก่ผู้เสียหายต่อไป
อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติการในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงลงได้จากความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนทั้งภายในและต่างประเทศ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดอายัดทรัพย์สินจำนวนมากและขอขอบคุณ ปปง. ที่เร่งรัดขับเคลื่อนการปฏิบัติจนสามารถออกคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่ได้ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและนำมาเฉลี่ยทรัพย์คืนให้แก่ผู้เสียหาย นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือในการให้ข้อมูลต่างๆจากภาคเครือข่ายธนาคารไทยเป็นอย่างดี จนสามารถนำข้อมูลที่ได้มาดำเนินการกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายในที่สุด

