ผอ.สำนักศิลปากรที่ 6 ยันพร้อมเคลื่อนย้าย รื้อถอน สิ่งก่อสร้างที่บุกรุกโบราณสถานวัดดอยข่อยเขาแก้ว จ.ตาก ออกทั้งหมด หลังช่วงวันสงกรานต์ปี 2569
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.68 ที่กรมศิลปากร นายสุชาติ กนกรัตน์มณี ประธานชมรมตามรอยเจ้าตาก นายอรรณพ บุญสว่าง ทนายความ นายปเรตร์ อรรถวิภัชน์ ที่ปรึกษาชมรมฯ นายจตุรงค์ จงอาษา นักวิชาการด้านศาสนา ได้เข้ายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมศิลปากร คัดค้านพระอดีตนักการเมือง บุกรุกโบราณสถาน วัดดอยข่อยเขาแก้ว (วัดร้าง) จ.ตาก โดยมีนายวสันต์ เทพสุริยานนท์ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 6 เป็นผู้รับหนังสือ

นายสุชาติ กล่าวว่า โดยมีข้อเท็จจริงที่ได้รับทราบมาว่า ตั้งแต่ปี 2552 ถึงวันที่ 21 ก.ย. 2554 นายสมบูรณ์ ปันคำ กับพวก ได้ร่วมกันบุกรุกเข้าไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และพักอาศัยอยู่ในบริเวณโบราณสถานวัดดอยข่อยเขาแก้ว (วัดร้าง) ซึ่งเป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพระเจ้าตากสินมหาราช โดยโบราณสถานดังกล่าวเป็นวัดร้าง อยู่ในการดูแลของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ทาง พศ. จึงได้ดำเนินคดีต่อศาลจังหวัดตาก เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2555 และศาลจังหวัดตามมีคำพิพากษาลงโทษ นายสมบูรณ์ ปันคำ ให้จำคุก 6 เดือน 15 วัน ปรับ 2,100 บาท โดยให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 2 ปี หลังจากนั้น นายสมบูรณ์ ปันคำ ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุสังกัดวัดหัวหิน (วัดพระนารายณ์) และกลับมาครอบครองพักอาศัยในโบราณสถานวัดดอยข่อยเขาแก้ว (วัดร้าง) อีก แม้เจ้าคณะตำบลหนองบัวเหนือ จะมีคำสั่งให้ยกเลิกการแต่งตั้งพระสมบูรณ์ วรธมฺโม เป็นผู้ดูแลโบราณสถานวัดดอยข่อยเขาแก้ว (วัดร้าง) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2565 แล้ว แต่ปรากฏว่า พระสมบูรณ์ ยังคงบุกรุกครอบครองโบราณสถานดังกล่าวอยู่เช่นเดิม มีการก่อสร้างกุฏิ ห้องสุขา และสิ่งก่อสร้างต่างๆ บนโบราณสถาน โดยมิได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากร และเรียกสถานที่นี้ขึ้นเป็นชื่อวัดสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทั้งแสดงตนเป็นเจ้าอาวาสต่อสาธารณชน สื่อออนไลน์ จัดกิจกรรมงานส่งเสริมประเพณีอุปสมบทหมู่ เรี่ยไร รับบริจาค มีการก่อสร้างป้ายโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งยังประกาศจัดงานในวันที่ 17 เม.ย. 2569

นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่า การที่พระสมบูรณ์ กระทำการดังกล่าว เข้าข่ายเป็นการบุกรุกธรณีสงฆ์ศาสนสมบัติกลาง (วัดร้าง) สร้างสิ่งก่อสร้างโดยมิได้รับอนุญาตจาก พศ. และกรมศิลปากร โดยมิได้คำนึงถึงความเสียหายต่อโบราณสถานซึ่งเป็นสมบัติของชาติ ซึ่งเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2568 สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตากได้จัดประชุมคณะกรรมการดูแล รักษา บริหารจัดการ และพัฒนาวัดดอยข่อยเขาแก้ว (ร้าง) โดยผู้แทนสำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัยได้เข้าร่วมประชุมด้วย และได้แจ้งว่า จากการสำรวจมีสิ่งก่อสร้างในเขตโบราณสถานดังกล่าว ไม่ได้ขออนุญาตรวม 14 รายการ และมติที่ประชุมพิจารณาแล้ว เห็นสมควรเคลื่อนย้ายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 14 รายการออกจากพื้นที่ตามที่สำนักศิลปากรที่ 6 เสนอ ภายใน 3 เดือน นับจากวันประชุม และต่อมาไม่มีการดำเนินการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างแต่อย่างใด และขณะนี้ระยะเวลาผ่านมาพอสมควรแล้ว จึงได้มาร้องเรียนอธิบดีกรมศิลปากร ขอคัดค้านการใช้พื้นที่โบราณสถาน และขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดต่อไป

ด้านนายวสันต์ กล่าวว่า จากการประชุมร่วมกับเจ้าคณะจังหวัดตากเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ยืนยันว่าจะมีการเคลื่อนย้าย รื้อถอน สิ่งก่อสร้างที่บุกรุกโบราณสถานออกทั้งหมดหลังช่วงวันสงกรานต์ปี 2569 และการดำเนินการใดๆ ในโบราณสถานดังกล่าว จะต้องมีการขออนุญาตทางกรมศิลปากรก่อนทุกครั้ง

ขณะที่นายจตุรงค์ กล่าวว่า หากทางพระสมบูรณ์ ยังมีการบุกรุกโบราณสถานดังกล่าวอีก จะมีการยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองให้ดำเนินการด้วย
