ศรีสุวรรณร้อง กกต.สอบอดีต สส.คนดังเมืองพิชัยแจ้งค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งเป็นเท็จหรือไม่หลังศาลแพ่งพิพากษาต้องจ่ายกรณีเบี้ยวค่าจ้างทำโพล

วันนี้ (1 ธ.ค.68) เวลา 11.00 น. ที่สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการฯ นาย ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต) เพื่อให้ตรวจอสบอดีต ส.ส.คนดังจังหวัดอุตรดิตถ์ เขต 2 และ เขต 3 หลังจ้างนักวิจัยจัดทำโพลหยั่งคะแนนเสียงช่วงเลือกตั้งปี 2566 แต่เบี้ยวจ่าย จนผู้รับจ้างต้องยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งพระโขนง กระทั่งศาลมีคำพิพากษาให้ต้องชำระเกือบ 1 แสนพร้อมดอกเบี้ย แต่ไม่ปรากฎว่ามีการแจ้งค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งในการจัดทำโพล ถือได้ว่าเป็นการแจ้งเท็จตามกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่

         ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 มี ส.ส.คนดังสังกัดพรรคลุง ได้ว่าจ้างให้นักวิจัยชื่อดังจัดทำโพลสำรวจการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งของตนกับบุตรสาวที่ลงสมัครในเขตเลือกตั้งติดกัน ในจังหวัดทางภาคเหนือตอนล่างเป็นเงิน 3 แสนบาท จนเมื่อถึงช่วงสุดท้ายที่จะต้องจ่ายอีก 1 แสน ส.ส.คนดัง กลับแจ้งว่าติดงานหาเสียง โดยรับปากว่าเมื่อได้ผลสำรวจจากการจัดทำโพลแล้วจะจ่ายให้ แต่ปรากฎว่าเมื่อผลโพลออกมาชี้ว่า ส.ส.คนดังและลูกสาวจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคส้ม และพรรคแดง ทำให้ ส.ส.คนดังไม่พอใจ กล่าวหาว่าผลโพลไม่ถูกต้อง จึงไม่ยอมจ่ายเงินคงค้างอีก 1 แสนบาทแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามผลการเลือกตั้งที่ออกมา ก็ปรากฏว่าผลลัพท์ของการเลือกตั้งใน 2 เขตดังกล่าวเป็นไปตามผลโพลทุกประการ กระนั้นทางทีมนักวิจัยได้พยายามติดต่อเพื่อขอเงินคงค้างอีก 1 แสนบาทที่เหลือเรื่อยมา แต่ว่า ส.ส.คนดังกลับบ่ายเบี่ยง และหลบเลี่ยงการเจรจา ทั้งที่ก่อนหน้านี้พบปะกันเป็นประจำ

           เมื่อการเลือกตั้งผ่านพ้นไป มีการตรวจสอบค่าใช้จ่ายการเลือกตั้งของ ส.ส.คนดัง และลูกสาว กลับไม่ปรากฎว่ามีการแจ้งต่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการว่าจ้างจัดทำโพลดังกล่าวลงในรายการค่าใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้ง ที่ยื่นให้กับ กกต.ตามกฎหมายแต่อย่างใด ทำให้นักวิจัยผ็รับจ้างจัดทำโพลดังกล่าว นำความไปยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง กระทั่งบัดนี้ศาลได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ ม64/2568 และคดีหมายเลขแดงที่ ม 143/2568 ให้ ส.ส.คนดังต้องชำระเงิน 86,300 บาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปีนับตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.2566 ไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

            องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เห็นว่ากรณีดังกล่าวน่าจะเป็นการจงใจยื่นเอกสารหรือหลักฐานไม่ครบถ้วนตามมาตรา 67 ประกอบมาตรา 155 ของ พรบ.เลือกตั้ง สส.ปี 2561 กระทบต่อการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยตรง มีโทษจำคุกและปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี ดังนั้นเมื่อความปรากฎในขณะนี้ว่าผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด

About The Author

Related posts