ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรุ่งนี้ วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน 2568 เวลา 12.00 น. ที่บริเวณหน้าแดนเนรมิตเก่า ริมฟุตบาท ลูกชาย ลูกสาว และญาติ ของ นายสุรพล โพคัยสวรรค์ ผู้เสียชีวิตจากการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรม จะเดินทางจากจังหวัดราชบุรี เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. และทีมงาน เพื่อให้ช่วยพาเข้าขอความเป็นธรรมที่กองปราบปราม เนื่องจากกังวลว่าคดีจะไม่คืบหน้า เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เดียวกันกับผู้ก่อเหตุ

ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 09:40 น. ในซอย 3 หน้าบ้านเลขที่ 44/4 หมู่ 3 ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยก่อนหน้านี้ สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุชายคุ้มคลั่งอาละวาดถือมีด จึงได้เข้าระงับเหตุ และเกิดการปะทะกันจนนำไปสู่การยิงสวน นายสุรพล โพคัยสวรรค์ อายุ 60 ปี เสียชีวิต โดยมีรายงานบาดแผลที่ขาหลายจุด และศีรษะมีบาดแผลแตก
จากการรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า ร.ต.อ.วรศักดิ์ คลองงาม รอง สวป. ได้ถูกผู้ตายพยายามใช้มีดไล่ฟัน จนล้มตกลงจากไหล่ถนนได้รับบาดเจ็บ จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนประจำกายยิงสวนไปที่บริเวณขาของผู้ตายเพื่อป้องกันตัว จากนั้นได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่ระหว่างที่นำออกมาจากจุดเกิดเหตุ ได้มีการแจ้งขอรถพยาบาลมาเปลี่ยนถ่ายผู้บาดเจ็บที่บริเวณริมถนนเพชรเกษมสายเก่า (หน้าปั๊ม ปตท.) แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในบริเวณดังกล่าว

คำให้การของบุตรสาว สงสัยการเคลื่อนย้ายศพและปฏิบัติหน้าที่ ด้าน นางสาวธนวรรณ โพคัยสวรรค์ บุตรสาวผู้ตาย อายุ 25 ปี ซึ่งเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุเกือบจะทันที ได้เปิดเผยถึงข้อสงสัยในเหตุการณ์ โดยระบุว่า ขณะที่ตนกลับมาถึงหน้าซอย ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ก่อนจะเดินเข้าไปเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายกำลังปั๊มหัวใจบิดาตนที่นอนจมกองเลือดอยู่กลางซอย
“หนูถามตำรวจว่าพี่ยิงพ่อหนูทำไม ตำรวจตอบว่าพ่อน้องถือมีดจะวิ่งไล่ฟันพี่ พี่เลยต้องยิงป้องกันตัว” บุตรสาวระบุ และสอบถามตำรวจเรื่องบาดแผลที่ใบหน้าของบิดา แต่ได้รับคำตอบว่า ศีรษะน่าจะกระแทกกับพื้นถนนไม่ได้ถูกซ้อม

ประเด็นที่สร้างความสงสัยและต้องการความกระจ่างที่สุดคือ
-การย้ายผู้บาดเจ็บ ขณะที่อยู่ในซอย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้บุตรสาวไปนำบัตรประชาชนผู้เป็นพ่อมาให้ และแจ้งว่าได้เรียกรถพยาบาลแล้ว แต่เมื่อกลับมาพร้อมเอกสาร ก็ไม่พบผู้เป็นพ่อในที่เกิดเหตุแล้ว
-เสียชีวิตที่ริมถนนใหญ่ ต่อมาได้รับแจ้งว่าพ่ออยู่ที่ “ตรงปั๊ม ปตท. เส้นนอก” เมื่อไปถึง พบตำรวจจำนวนเกือบ 10 นาย และเห็นบิดาตนเองนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นถนนที่ไม่มีอะไรรอง มีเพียงผ้าขาวคลุมอยู่ข้างทาง
-คำถามต่อเจ้าหน้าที่ บุตรสาวและญาติมีความข้องใจอย่างมากว่า เหตุใดเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บออกมาจากจุดเกิดเหตุกลางซอย ไปไว้ที่ริมถนนใหญ่บริเวณหน้าปั๊ม โดยไม่มีการนำส่งโรงพยาบาลในทันที ทั้งที่บาดแผลที่หน้าขาข้างขวาได้ตัดเส้นเลือดใหญ่ ซึ่งมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก จนสุดท้ายผู้เป็นพ่อเสียชีวิตที่ริมถนน

นางสาวธนวรรณ ยืนยันว่า บิดาตนแม้จะป่วยเป็นจิตเวชและรับประทานยาอยู่ แต่ไม่เคยทำร้ายใคร และตนจะขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะเชื่อว่าเป็นการ “ทำเกินกว่าเหตุ”
บุตรสาวและญาติจะขอให้ทีมงานของจ่าคิงส์ แตงทิม ช่วยเหลือในการยื่นเรื่องต่อกองปราบปราม เพื่อให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างเป็นธรรมและโปร่งใสต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อมา ได้มีการเผยแพร่ภาพคลิปวงจรปิดจากกล้องประจำตัว(บอดี้แคม) ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยิงผู้ตาย เผยแพร่ในโลกโซเชียล ซึ่งมีคนเข้ามาแสดงความเห็นส่วนใหญ่ไปทางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการสกัดจับผู้ตายเป็นไปตามยุทธวิธี
