เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.2 พ.ต.อ.ประภาส แก้วฉีด ผกก.สน.โคกคราม พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.ดส. พ.ต.ต ยศ ชนินทร์ ประเสริฐโสภา สว.กก.ดส. พร้อมชุดสืบสวนนครบาล 2 ตำรวจไซเบอร์ ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ 15 คน แบ่งออกผู้ต้องหาสัญชาติ อาเซอร์ไบจาน 9 คน ผู้ต้องหาสัญชาติ จอร์เจีย 5 คน ผู้ต้องหาสัญชาติ ยูเครน 1 คน

พร้อมด้วยของกลาง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ยี่ห้อ HP 21 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ยี่ห้อ ACER 4 เครื่อง เราเตอร์ยี่ห้อ ZTB รุ่น 3000 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 16 เครื่อง อุปกรณ์หูฟังและสายชาร์ต 15 ชุด เอกสารสคริปต์ข้อความในการใช้หลอกลวง 5 ชุด จับกุมได้บริเวณเพิงพักไม่มีเลขที่ตรงข้ามวัดนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากพล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผบ.ตร. สั่งการให้ชุดสืบสวนนครบาลแบะชุดสืบสวนไซเบอร์ ลงพื้นที่เหตุจากสายตรวจสน.โคกคราม ประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 14 พ.ย. 2568 ในขณะที่เจ้าหน้าที่อยู่เวรตามปกติ ที่ สน.โคกคราม ได้รับแจ้งว่าบริเวณ ท้ายซอย ระหว่าง ซอยนวลจันทร์ 36 – 38 เป็นลานจอดรถและมีอาคารคล้ายโกดังเก็บของ มีคนร้องเรียนว่ามีการส่งเสียงดังรบกวน และมีชาวต่างชาติเดินเข้าเดินออก

สายตรวจได้ออกตรวจและพบเห็นชาวต่างชาติเดินไปเดินมา จากนั้นเจ้าหน้าที่สืบสวน ได้ออกเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงด้านหน้าอาคาร เจ้าหน้าที่ได้พบกับชาวต่างชาติ 2 คน ทั้งสองคนนี้เป็นชาวเซอร์ไบจาน (Azerbaijan) หนึ่งในนั้นใส่เสื้อสีเขียว ชาวต่างชาติทั้งสองคนด้านนอกไม่ให้ความร่วมมือและสื่อสารไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่พยายามขอตรวจค้นเนื่องจากมีคนร้องเรียนมา ชายเสื้อเขียวสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ โดยเขากล่าวว่า “My friend is coming here” และขอเวลา 5 นาที เพื่อให้เพื่อนของเขามาพูดคุย เจ้าหน้าที่รออยู่ระยะหนึ่ง

หลังจากนั้น เจ้าของโกดังก็เดินทางมาถึงพอดี เจ้าของได้สอบถามหาผู้เช่าและแจ้งว่ามีคนพูดภาษาอังกฤษได้ เจ้าของโกดังจึงเป็นผู้ช่วยสื่อสารกับชาวต่างชาติ และชาวต่างชาติให้ความร่วมมือโดยแจ้งว่าตำรวจขอเข้ามาตรวจสอบหน่อยได้หรือไม่ ชายเสื้อเขียวจึงให้ความร่วมมือ โดยควักกุญแจออกมาเปิดประตูเหล็กให้ ชายเสื้อเขียวคนนี้สื่อสารภาษาอังกฤษพอได้
ก่อนเข้าห้องโกดังดังกล่าว ชายเสื้อเขียวได้เปิดประตูให้ ห้องที่เข้าไปตรวจสอบเป็นห้องใหญ่และเป็นห้องปิดทึบ ไม่มีหน้าต่าง ตอนแรกเป็นประตูเหล็กที่มีตาแมวที่สามารถเลื่อนได้ ผู้เจ้าหน้าที่ได้เลื่อนตาแมวเปิดดู ทำให้คนที่อยู่ข้างในเห็นและเดินหลบไปห้องด้านหลัง เจ้าหน้าที่สืบสวนที่พบเหตุก่อนยืนยันว่าเมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้ว เห็นกลุ่มคนดังกล่าว จำนวนประมาณ 15 คน กำลังนั่งอยู่ประจำโต๊ะคอมพิวเตอร์อยู่ คอมพิวเตอร์ถูกเปิดอยู่และมีลักษณะการใช้งาน กำลังนั่งอยู่ประจำโต๊ะคอมพิวเตอร์อยู่
เมื่อเจ้าหน้าที่ปรากฏเข้าถึงตัว กลุ่มคนทั้งหมดมีปฏิกิริยาตกใจและลุกหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัว จากการสืบสวนขยายผลพบว่าผู้ต้องหาทัังหมดร่วมกันเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกเหยื่อลงทุนเทรนเงินเหรียญดิจิทัลหรือเงินคริปโท

เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันเป็นอั้งยี่ มีส่วนร่วมในองค์กรอากรรมข้ามชาติ เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาติ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ดำเนินคดีต่อไป
