เมื่อ เวลา 10.00น. วันที่ 5 ธันวาคม 2568 พลตำรวจเอกวินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายกสมาคมตำรวจ ,พลตำรวจเอกเอก อังสนานนท์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , และตัวแทนจากสมาคมตำรวจ , ชมรมพรักงานสอบสวน , สมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ , ชมรมข้าราชการตำรวจบำนาญ ยื่นหนังสื่อถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเร่งตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใส กรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลและให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน เกี่ยวกับเครือข่ายการพนันออนไลน์ และคอลเซ็นเตอร์ หากพบว่ามีตำรวจเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจริง ต้องดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด โดยไม่มีข้อยกเว้น เพื่อรักษาศักดิ์ศรีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ส่วนประเด็นที่ 2 ทั้ง 4 องค์ตำรวจ ยังมีแถลงจุดยืนตอบโต้ กรณี พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ที่ให้สัมภาษณ์ว่า “ตำรวจคือองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” โดยมองว่าเป็นคำพูดที่เหมารวมและอาจสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของตำรวจส่วนใหญ่ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริต พร้อมเสนอให้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ นำข้อมูลที่มีอยู่ส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แทนการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ
ด้านพลตำรวจตรีไอยศูรย์ สิงหนาท อดีตผู้บังคับการประประจำกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน หัวหน้าสมาคมตำรวจสาขาจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่าการออกมาปกป้ององค์กรตำรวจ หลังทนเห็นพฤติกรรมของพลตำรวจเอกสุระเชษฐ์ และนายอัจฉริยะ ออกมาให้ร้ายองค์กรตำรวจไม่ได้ และเรียกร้องให้นำหลักฐานที่เชื่อถือได้เข้ามาแสดง ไม่ใช่การแอบอ้างแบบโคมลอย
สำหรับประเด็นที่ถูกตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนปัจจุบัน ไม่ออกมาตอบโต้กรณีที่ทั้งสองภาคเพียงองค์กรตำรวจนั้น พลตำรวจโทยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การตอบโต้มีหลายรูปแบบ แต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนปัจจุบันเลือกที่จะใช้วิธีในการหาพยานหลักฐาน และดำเนินคดีตำรวจที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ตามขั้นตอน ส่วนการถูกพาดพิงว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นองค์กรอาชญากรรมนั้น เป็นเรื่องของการรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งเฉย และยืนยันว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้ยืมมือ 4 องค์กรตำรวจให้ออกมาเรียกร้องในครั้งนี้
สำหรับองค์กรตำรวจทั้ง 4 ยืนยัน สนับสนุนความโปร่งใส ความยุติธรรม และการตรวจสอบตามหลักฐานจริง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรม และย้ำว่าจะติดตามการดำเนินการเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เป็นไปอย่างเที่ยงธรรมและเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
About The Author
