เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 ต.ค.68 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายพิทยา นิลยี่เรือ อดีตพนักงานโรงงานบริษัทเอกชนที่ประกอบธุรกิจจัดงานออกบูทตามงานต่างๆ ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อ “จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่”(อดีต สห.ทอ.) และ อ.มานพ สีเหลือง ทีมงาน ให้ช่วยนำเข้าร้องทุกข์ต่อ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งขณะนี้ได้หลบหนีไปแล้ว

นายพิทยา เปิดเผยว่า ตนทำหน้าที่ขับรถของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ถูกเพื่อนพนักงานเป็นชาย 2 คน รุมทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธ คล้ายเหล็ก ตีเข้าที่ศีรษะและตามร่างกายเกือบ 10 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในโรงงานที่ทำงานของตน ในซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 32 (ซอยพรพระร่วง) ท้องที่ สน.คันนายา

หลังเกิดเหตุร้ายผ่านไป 7 วัน ตนและแฟนสาว กลับถูกบริษัทฯ ให้ออกจากงานทั้งคู่ โดยไม่ทราบว่ามีความผิดอะไร เหตุการณ์นี้ทำให้ครอบครัวซึ่งมีลูกเล็ก 2 คน (คนโต 2 ขวบ คนเล็ก 6 เดือน) ต้องประสบปัญหาด้านการดำรงชีวิตอย่างหนัก และต้องอพยพกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด
ส่วนผู้ก่อเหตุทั้งคู่โดนบริษัทไล่ออกตั้งแต่วันก่อเหตุทันที และได้หลบหนีไปแล้ว ทำให้เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและคดีจะเงียบหาย

นายพิทยา ระบุสาเหตุที่นำไปสู่การทำร้ายร่างกายว่า ตนทราบจากภรรยาว่า เพื่อนคนงานที่ใช้เหล็กตีหัวและลำตัวตนแตกเย็บหลายสิบเข็ม น่าจะมีปัญหามาจาก น้องนก เมียเขาที่เล่น TikTok แล้วมีผู้ชายเข้าไปคอมเม้นต์เชิงชู้สาว พอมาเจอตนที่รู้จักน้องนกอยู่ก่อน (เคยจ้างน้องนกเป็นพี่เลี้ยงลูกทั้ง 2 คน) เขาน่าจะพาลอารมณ์เสียโมโหที่ตนไปพูดสอนน้องนกว่า ‘เจอคนดีๆ ก็ดีกับเขานะ’ เพราะตนรู้จักนิสัยน้องนกว่าค่อนข้างจะดื้อรั้น ‘ไม่ใช่อยู่ด้วยกันแล้วแอบไปคบกับคนอื่น’ ตนเตือนน้องนกเมียเขาดีๆ ก่อนจะถูกสามีเขากับเพื่อนรุมตี”
นายพิทยา ยืนยันว่าตนแบ่งปันช่วยเหลือพวกเขามาตลอด ไม่คิดว่าจะมาทำร้ายกันเช่นนี้ หลังมีคนช่วยแยกตนออก ก่อนส่ง รพ. ตนยังถามเขาว่ามาทำร้ายตนทำไม เขาอาจจะฟังแล้วเข้าใจตนไปผิดๆ เลยพาลโมโหมาทำร้ายตน เพราะวันเกิดเหตุเขามีอาการมึนเมาด้วย ส่วนพนักงานอีกคนเป็นเพื่อนจึงเข้าช่วยรุมทำร้ายตน
“ผมถูกตีที่ศีรษะและตามร่างกายเกือบ 10 ครั้ง ทั้งผมและแฟนก็ถูกออกจากงาน ทำให้ลำบากมาก ลูกก็ยังเล็กแค่ 6 เดือน ส่วนคนที่ทำร้ายก็หนีไปแล้ว ผมจึงต้องมาร้องขอให้จ่าคิงส์ช่วยนำเข้าร้องเรียนที่กองปราบ เพื่อขอความเป็นธรรมครับ”
อ.มานพ สีเหลือง กล่าวว่า การทำร้ายด้วยเหล็กหลายครั้งจนบาดเจ็บสาหัสเป็นการกระทำที่อุกอาจ เจ้าหน้าที่ควรเร่งติดตามผู้ก่อเหตุโดยเร็ว เพราะความล่าช้าเท่ากับความไม่ยุติธรรมที่เพิ่มขึ้นต่อผู้เสียหาย ทั้งยังส่งผลกระทบต่อครอบครัวที่ต้องตกงานและมีลูกเล็ก จึงควรได้รับการเยียวยาเร่งด่วนทั้งด้านคดีและชีวิตความเป็นอยู่ และแนะนำว่ากรณีถูกให้ออกจากงานสามารถขอเงินช่วยจากประกันสังคมมาบรรเทาความเดือดร้อนได้

จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ และทีมงาน พาผู้เสียหายขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ให้ช่วยเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบถามข้อมูลจากผู้เสีย ก่อนจะประสานไปยัง สน.คันนายาว ให้เร่งรัดดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็ว แนะนำให้ผู้เสียหายกลับไปตำรวจ สน.คันนายาวทันที
