ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติปราบปรามผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยมี นายสันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการขับเคลื่อนการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ดำเนินการกวาดล้างครั้งสำคัญ

โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท. ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต. คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.บก.ปคบ. พร้อมคณะทำงาน นำโดย พ.ต.ท.วิศรุต บางน้ำเค็ม สว.กก.1 บก.ปคบ. นำกำลังเข้าทลายเครือข่ายจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์ชื่อ “VST นวลจันทร์”
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจากโครงการสายตรวจออนไลน์ จนสืบทราบว่า เพจไลน์ “VST นวลจันทร์” มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและบริการจัดส่งทั่วประเทศ โดยมีจุดเชื่อมโยง จุดพักสินค้า และสถานที่จัดเก็บอุปกรณ์กระทำความผิด
วันที่ 28 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 06.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ติดตามรถยนต์ต้องสงสัยที่ใช้ในการขนส่งพัสดุบุหรี่ไฟฟ้า และจับกุม นายสมชาย เจนวจีพร ขณะนำกล่องพัสดุบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากประมาณ 400 กล่อง ไปส่งยังร้านขนส่งเอกชนในซอยสุขุมวิท 101 นายสมชายรับว่าพัสดุดังกล่าวมาจากโกดังในซอยกิ่งแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ

จากการขยายผล เจ้าหน้าที่ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้น 3 จุดสำคัญ ได้แก่ 1.บ้านพักย่านสุขุมวิท 101 พบบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนหนึ่ง 2.บ้านเลขที่ 29 ซอยนักกีฬาแหลมทอง 4 กรุงเทพฯ ตามหมายค้นศาลอาญามีนบุรี ที่ จ535/2568 โดยมี น.ส. ชนิศา กุลภควา เป็นผู้ครอบครองสถานที่ พบ เงินสดจำนวน 1,600,000 บาท และบัตรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนหนึ่ง
3.โกดังเลขที่ ๖๘/๖๑ ม.๕ ซ.กิ่งแก้ว ๔๐/๒ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นจุดเก็บสินค้าหลัก ตามหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 806/2568 พบ บุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบแล้วทิ้ง น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ต่างๆ รวมประมาณ 30,000 ชิ้น

จากการตรวจค้นและตรวจยึดของกลางในทุกจุด มูลค่าของกลางทั้งหมดคาดว่าอยู่ระหว่าง ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ – ๑๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท (อยู่ระหว่างตรวจนับ)
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายสมชาย และ น.ส. ชนิศา (ผู้ต้องหารวม 2 ราย) ว่า “ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้า (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า), ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ซึ่งของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร” ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๒๒ และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560

ผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.๑ บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
บก.ปคบ. ขอเตือนภัยและแสดงความห่วงใยต่อประชาชน หากพบเห็นการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือการหลอกลวงขายสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งข้อมูลมาที่ สายด่วน 1135 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคต่อไป

