เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 10 ต.ค.68 ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อี้แทนคุณ ชมรมสันติประชาธรรม พร้อมด้วย คุณเก่ง สุเชษฐ์ ผู้ช่วยฯ พา น.ส.สมสกุล (นามสมมุติ) อายุ 62 ปี อดีตพนักงานบัญชี บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีกับ กลุ่มมิจฉาชีพ ที่หลอกลวงให้ร่วมลงทุนเทรดหุ้นผ่านช่องทางออนไลน์ จนเกิดความเสียหายมูลค่ารวมกว่า 9,000,000 บาท (เก้าล้านบาท) เป็นเงินเก็บจากหลังเกษียณ เป็นเงินจำนวน 6,000,000 กว่าบาท และยังได้ไปกู้ยืมเป็นหนี้สินอีกประมาณสามล้านบาท
น.ส.สมสกุล เปิดเผยว่า พฤติการณ์ของกลุ่มมิจฉาชีพเริ่มต้นจากการหลอกลวงผ่านแพลตฟอร์ม TikTok ชักชวนให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนในแอปพลิเคชันไลน์และเข้าสู่ กลุ่มขนาดใหญ่ โดยมีการใช้ หน้าม้า ภายในกลุ่มมาสร้างความน่าเชื่อถือ อ้างว่าสามารถทำกำไรและได้รับเงินปันผลคืนเป็นหลักหมื่นบาทต่อวัน จนผู้เสียหายหลงเชื่อและลงทุนไปอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงแรกสามารถเทรดและเห็นตัวเลขกำไรในระบบ เมื่อรวมกับเงินต้นที่ลงทุนไป ยอดเงินในบัญชีเทรดสูงถึง 19,000,000 บาท อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้เสียหายพยายามจะถอนเงินออกจากระบบ ทางกลุ่มมิจฉาชีพได้เรียกเก็บ “ค่าภาษี” เป็นจำนวนเงินมหาศาลระหว่าง 4,000,000 – 5,000,000 บาท
หลังจากนั้นจะจ่ายเงินค่าภาษีและพยายามจะถอนเงินที่เหลือ มิจฉาชีพกลับอ้างเหตุผลบ่ายเบี่ยงว่า “เลขไม่ตรงกับสรรพากร” ก่อนจะ เตะผู้เสียหายออกจากกลุ่มไลน์และไม่สามารถติดต่อได้อีก เมื่อผู้เสียหายลองสอบถามไปยังบุคคลอื่นในกลุ่มไลน์ที่เคยพูดคุยด้วย กลับได้รับคำตอบว่าไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทำให้ผู้เสียหายตระหนักว่าถูกหลอกลวง
อี้แทนคุณ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้เสียหายได้รับผลกระทบทางจิตใจอย่างรุนแรง มีอาการ ซึมเศร้า วิตกกังวล เครียดจัด จนถึงขั้นมีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นมีมูลค่าสูงมาก
ทั้งนี้ ชมรมสันติประชาธรรมได้รับข้อมูลว่า กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวยังคงดำเนินการหลอกลวงประชาชนอย่างต่อเนื่อง จึงได้นำผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พงส.บก.ปอศ. เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนและติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งขอความอนุเคราะห์จากสื่อมวลชนทุกแขนงให้ช่วย กระจายข่าวเตือนภัย เพื่อไม่ให้มีประชาชนรายอื่นตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้อีก
หลังจากเข้าพบพนักงานสอบสวน ได้สอบถามข้อมูลจากผู้เสียหายก่อนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
About The Author
