นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการเปิดเผยจากสื่อต่างประเทศ ว่า นายโดนัล เจ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เสนอเป็นตัวกลางในการลงนามสันติภาพระหว่างไทย – กัมพูชา ว่า คนที่เข้ามาเป็นตัวกลางก็ถือว่ามีเจตนาที่ดี แต่คู่สัญญาก็ต้องปฏิบัติตามข้อสัญญาที่ได้ทำข้อตกลงกันไว้ ซึ่งประเทศไทยเป็นฝ่ายที่ถูกรุกรานและถูกกระทำก่อน ซึ่งไทยได้พูดออกไปชัดเจนแล้ว หากจะมีการเจรจา ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงพื้นฐาน 4 ข้อ ประกอบด้วยการถอนกำลังและอาวุธ / จัดการบุคคลที่มารุกรานประเทศไทยให้ออกนอกเขตอธิปไตยของประเทศ และเก็บกู้สิ่งที่เป็นอันตรายต่อประเทศไทยออกจากพื้นที่
นายอนุทิน บอกต่อว่า เจรจาหากปฏิบัติตามข้อตกลงทั้งหมดประเทศไทยก็พร้อมที่จะเจรจา เพราะบ้านเราติดกัน ส่วนคนกลางอยู่ไกลคนละทวีป แต่หากสามารถโน้มน้าวให้ประเทศกัมพูชา ปฏิบัติตามข้อตกลงเหล่านี้ได้ ว่าจะไม่ถูกรุกรานเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทย และทำให้ประเทศไทยมั่นใจว่าจะไม่ถูกรุกราน ประเทศไทยจึงจะเริ่มเจรจาต่อไป
ข้อสังเกตผู้สื่อข่าวย้ำถามว่าก่อนหน้านี้ประเทศกัมพูชาเสนอรางวัลโนเบลให้กับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจะเป็นข้อได้เปรียบ และแฝงประโยชน์ร่วมกัน หรือไม่ / นายอนุทิน บอกว่า ตนสนใจเฉพาะประโยชน์ของประเทศไทย เรื่องอื่นใครจะได้รางวัล หรืออะไรก็แล้วแต่ หากปรากฏเป็นข่าว หรือรับรู้เราก็ยินดีปรีดาด้วย แต่สิ่งเรานั้นจะไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยจะต้องทำสิ่งนี้หรือทำสิ่งนี้ ย้ำว่า ไม่มีแน่นอน
ส่วนที่มีข้อกังวลว่าในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ประเทศกัมพูชาจะมีการขนคนเข้ามาเติมในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้วเพิ่มเติมในพื้นที่ นายอนุทิน ย้ำว่าเรามีกฎหมาย และยังมีการประชุมเตรียมแผนรับมือไว้แล้ว หากประเทศกัมพูชามีการรุกล้ำธิปไตยของประเทศไทย แต่ไม่ต้องไปกำหนดวัน ประเทศไทยไม่มีวันยอมขอตอบสั้นๆ แบบนี้