เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 ต.ค.68 จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พร้อมอาจารย์ มานพ สีเหลือง ทีมงาน พานายธนวัช (สงวนนามสกุล) เข้าร้องขอความเป็นธรรมตำรวจกองปราบปรามเร่งรัดคดีถูกลูกจ้างรวมหัวโขมยถังแก๊ส แจ้งความ สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี นานกว่า 6 เดือนคดีไม่คืบ
นายธนวัช อายุ 54 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายแก๊สหุงต้มในจังหวัดกาญจนบุรี ร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ อดีต สห.ทอ. และทีมงาน หลังถูกอดีตลูกจ้างรวม 4 ราย ก่อเหตุยักยอกทั้งถังแก๊สไปกว่า 60 ถัง และเงินสด รวมมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก โดยอ้างว่าแจ้งความดำเนินคดีมานานกว่า 6 เดือน แต่คดีไม่มีความคืบหน้า
นายธนวัช ระบุว่า ตนประกอบอาชีพสุจริตเลี้ยงดูครอบครัว และเนื่องจากตนมีอาการป่วยเป็นไส้เลื่อน ทำให้ต้องมีลูกน้องมาช่วยส่งแก๊ส ซึ่งมียอดส่งวันละเกือบ 100 ถัง
ลูกจ้างรายแรกคือ นายสุรกานต์ ที่มาขอทำงานหลังพ้นโทษ โดยตนให้โอกาสพร้อมกำชับไม่ให้กลับไปเส้นทางเดิม แต่ปรากฏว่าประมาณเดือนเมษายน นายสุรกานต์ ได้ก่อเหตุยักยอกเงินลูกค้าที่จ่ายสด และยังยักยอกถังแก๊สจำนวนหลายถัง ซึ่งตนมีหลักฐานการทำบัญชีการสั่งแก๊สแต่ละวัน และมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว 1 คดี
ลูกจ้างรายที่สองคือ นายชนก เพื่อนของนายสุรกานต์ ที่เข้ามาทำงานภายหลัง โดยนายธนวัช ระบุว่า นายชนก มีพฤติการณ์ยักยอกเงินและถังแก๊สในเดือนเมษายนเช่นกัน โดยมีการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ของร้านเป็นเบอร์ตนเองเพื่อให้ลูกค้าโทรหา มีการเก็บเงินเกินราคาโดยอ้างว่าแก๊สขึ้นราคา ทั้งยังดึงซิลผนึกถังออก ทำให้ลูกค้าสงสัยว่าแก๊สเต็มถังหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีการให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว และมีการนำถังแก๊สที่อ้างว่าได้มาจากกลุ่มผู้เสพยามาขายให้ที่ร้าน ซึ่งตนปฏิเสธเพราะกลัวเป็นของโจร
ส่วนลูกจ้างรายที่สามคือ นายสมนึก ซึ่งนายธนวัช ระบุว่าเป็นคนทำงานดีและซื่อสัตย์ แต่เป็นผู้ที่รับรู้เหตุการณ์ทั้งหมด และพร้อมเป็นพยานให้กับตน
และลูกจ้างรายที่สี่คือ นายศุภชัย ที่เข้าทำงานเพียงวันเดียวในเดือนเมษายน แต่ปรากฏว่า เงินเกือบ 5,000 บาทในกระเป๋าคาดเอวได้หายไป และถังแก๊สของลูกค้าถูกลักไป 2 ถัง ซึ่งตนต้องนำถังไปคืนให้กับร้านค้า โดยนายธนวัชสรุปว่า การกระทำทั้งหมดเป็นการกระทำเป็นกระบวนการ ทำให้ตนต้องสูญเสียทั้งเงิน ของ และชื่อเสียง
นายธนวัช เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนพยายามร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อท้องถิ่นแล้วแต่ถูกสกัด จึงตัดสินใจมาขอความช่วยเหลือจาก จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ โดยเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวอาจมีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากตนมีหลักฐานทุกอย่างแต่คดีกลับไม่คืบหน้า
นายธนวัช เจ้าของร้านแก๊ส กล่าวเพิ่มเติมว่า เคยร้องทุกข์กับสื่อฯ ท้องถิ่น มาสัมภาษณ์เกี่ยวกับคดีนี้ ยังสนับสนุนสื่อฯ ไป 2,000 บาท แต่สุดท้ายกลับไม่ออกอากาศหรือรายงานข่าวแต่อย่างใด เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากเกรงอิทธิพลของผู้ใหญ่ในท้องถิ่นที่เข้ามาช่วยผู้ต้องหาในคดีของตนจนสุดท้ายพนักงานสอบสวนหลอกให้ตนเซ็นซื่อไม่ประสงค์จะร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน
ด้าน อาจารย์มานพ กล่าวว่า
“กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของระบบบัญชีรายวันและการควบคุมภายใน (Internal Control) ที่เจ้าของกิจการเล็กๆ มักมองข้าม เพราะเมื่อไม่มีการบันทึกยอดรับ–ยอดส่ง หรือหลักฐานโอนเงินไว้ชัด คดีก็จะพิสูจน์ยาก
ในทางกฎหมาย การกระทำของลูกจ้างลักษณะนี้เข้าข่าย ยักยอกทรัพย์นายจ้าง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 6 ปี และไม่สามารถยอมความได้
แต่ที่น่าห่วงคือคดีล่าช้านานกว่า 6 เดือน ทั้งที่มีหลักฐานครบ ทำให้ผู้ประกอบการสูญเสียทั้งทรัพย์สินและศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม”