พี่ศรีฯจี้ถาม รมว.แรงงานทำไมไม่ปรับเงินเอกชน 380 ล้านที่ส่งมอบงานระบบบัตรต่างด้าวไม่ได้ซูเอี่ยกันหรือไม่

วันนี้ (6 ต.ค.68) เวลา 10.00 น. ที่กระทรวงแรงงาน เขตดินแดง นายศรีสุวรรณจรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ได้จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมต.แรงงานคนใหม่ เพื่อขอให้ตรวจสอบโครงการฯจ้างจัดทำและต่อใบอนุญาตแรงงานต่างด้าวมูลค่า 7,950 ล้านบาท ซึ่งเลยกำหนดการส่งมอบงานมา 1 ปี 2 เดือนแล้ว แต่เอกชนคู้สัญญากับไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามสัญญา และจะต้องถูกปรับเงินไม่ต่ำกว่า 380 ล้าน ทำไมกระทรวงแรงงานยังนิ่งเฉย

          ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรมการจัดหางานได้เปิดประมูลให้เอกชนมาจัดทำโครงการจ้างเหมาเอกชนผลิตใบอนุญาตทำงาน และให้บริการรับคำขอ และการแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว (Outsourcing Service) งบประมาณ 7,950 ล้านบาท ซึ่งมีกิจการร่วมค้าชื่อดังแห่งหนึ่งประมูลงานได้ โดยได้ลงนามเซ็นต์สัญญากันไปเมื่อวันที่ 25 ก.ค.2566 มีระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 360 วันและจะต้องส่งมอบงานเมื่อเดือน ก.ค.2567 หากไม่สามารถส่งมอบงานได้จะต้องเสียค่าปรับเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.10 ของมูลค่างานที่ยังไม่ส่งมอบ แต่จนบัดนี้ก็ยังส่งมอบงานให้ไม่ได้

กรณีดังกล่าวจึงเป็นข้อพิรุธที่อาจมีการวิ่งเต้นช่วยเหลือบริษัทเอกชนรายดังกล่าว ในทุกช่องทางโดยอำนาจของอดีตนักการเมืองใหญ่เจ้ากระทรวงในอดีตร่วมกับผู้บริหารของกรมจัดในอดีตหรือไม่ โดยช่วยกันขยายเวลาส่งมอบงานออกไปนับปีเยี่ยงนี้

นอกจากนั้น ยังมีข้อร้องเรียนจากข้าราชการและผู้ประกอบการเอกชนว่ามีคนใกล้ชิดรัฐมนตรีชื่อสุเทพ(ไม่ทราบนามสกุล) ที่เดินตามรัฐมนตรีตลอดเวลาในวันที่รัฐมนตรีเข้ากระทรวงในวันแรก พบว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติการณ์ที่น่าสงสัยเพราะอาจมีการแทรกแซงการทำงานข้องข้าราชการหรือไม่ โดยเร่งรัดให้รีบเซ็นสัญญาจ้างบริษัทเอกชนจำนวนหลายโครงการที่ใช้งบปี 68 ที่อยู่ระหว่างจัดซื้อจัดจ้าง และสั่งให้ข้าราชการ เร่งรีบจัดทำสเปก เขียนทีโออาร์และตั้งกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือน พร้อมๆกับเรียกผู้ประกอบการมาพบตามสถานที่ต่างๆ มาคุยนอกรอบเพื่อจัดสรรงบประมาณล๊อคโครงการฯต่างๆให้ในการใช้งบประมาณปี 69 โดยอ้างว่ารัฐมนตรีสั่งมา อันเป็นเรื่องที่โจษขานกันอย่างมากในกระทรวงแรงงาน

             ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงต้องนำความมาร้องเรียนต่อท่าน รมว.แรงงาน คนใหม่ เพื่อตรวจสอบและปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญาโครงการฯที่มีมูลค่าสูงดังกล่าว อีกทั้งต้องรีบตรวจสอบและเคลียร์คนใกล้ชิดว่ามีพฤติกรรมตามที่ข้าราชการและผู้ประกอบการเอกชนร้องเรียนมาหรือไม่ ถ้ายังนิ่งเฉยองค์กรฯจะนำความไปร้องเรียนนายกรัฐมนตรีต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด

About The Author

Related posts