เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2568 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏ นครราชสีมา ศาสตราจารย์ดร.สามารถ จับโจร ผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยฯ เผยว่าตนได้จัดการแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย ครั้งที่ 4 ชื่อ”comtemporary art exhibition samart solo 2025 one man show ระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2568-26 กุมภาพันธ์ 2569 มีการแสดงผลงานกว่า 70 ผลงาน โดยเฉพาะพิเศษเรื่อง บันทึกเรื่องราวจากเรื่องเล่าอีสาน โดยมีพล.ท.วีรยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานเปิดงาน ในวันที่ 26 ธันวาคม 2568 เวลา 14.00 น

โดยเผยว่าตนเป็นผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางไปในสถานที่ต่างฯ ทั้งท่องเที่ยวตามใจปรารถนาไปร่วมเสวนาทางวิชาการฯการไปมาหาสู่กันฉันท์มิตร การได้คบค้าสมาคมกับเพื่อนฝูงที่ใกล้ชิดสนิทกัน ทั้งในสายวิชาชีพเดี่ยวกัน รวมทั้งต่างศาสตร์สาขาวิชา เช่นข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ หมอ พยาบาล นักวิชาการ ครู บุคลากรทางการศึกษา พ่อค้า นักธุรกิจ นักการเมือง ชาวสวน ชาวไร่ ชาวนาและอื่นๆอีกมากมายฯ ทำให้ได้ซึมซับรับรู้ทั้งในเรื่องของวิธีคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ และการตัดสินใจที่แปลกแตกต่างกันไปซึ่งแง่คิดมุมมองของแต่ละยุคยอมมีคุณค่า น่าศึกษา มีความต่างกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็อาจมีความคล้ายคลึงกันบ้างแต่ก็ไม่ทั้งหมด นอกจากนี้การที่ได้เข้าไปสัมผัสกับวิถี เรียนรู้ประเพณีวัฒนธรรมพื้นที่ชนบทห่างไกลความเจริญ ความศิวิไลซ์ในประเทศ ต่างประเทศ ทำให้เห็นถึงมิติที่แตกต่างตามสภาพสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต อาหาร เครื่องนุ่งห่ม สังคม วัฒนธรรมองค์กร สะท้อนความเป็นธรรมชาติและเป็นแรงบันดาลใจในการสรรค์สร้างผลงานของข้าพเจ้า”เป็นต้นทุนทางปัญญาและที่มาของความคิด” เป็นข้อมูลดิบที่รอการสังเคราะห์”จากความประทับใจที่เก็บไว้ภายในจิตใจแล้วนำมาปรับขยายในงานสร้างสรรค์ ส่วนขั้นตอนการออกแบบผลงาน ข้อมูลที่ใด้มาต้องผ่านการรวบรวมเรียบเรียงขึ้นใหม่ โดยใช้ภาษาภาพหรือภาษารูปทรงเป็นตัวกำหนด ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการสื่อความหมายให้ปรากฏและเป็นไปตามกรอบแนวความคิดของตน เป็นมาตรชี้วัดตามความถนัดเฉพาะตัว
ดังนั้นผลงานในแต่ละชิ้นจึงถูกปรุงแต่งจากอายตนะที่สะท้อนผัสสะเพื่อสื่อถึงสภาวะแห่งอารมณ์ ทั้งในส่วนของเส้น สี มิติ น้ำหนักแสงเงาที่สะท้อนความเป็นปัจเจกของข้าพเจ้าเพื่อให้เกิดผลต่อการก่อรูป ปรากฏร่างอย่างมีความหมายภายใต้การวางแผนงาน และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การสร้างสรรค์ผลงานจะไม่ผูกติดกับเนื้อหาเรื่องราวจนมากเกินไป แต่จะนำความประทับใจแค่ในส่วนที่ได้ไปสัมผัสรับรู้มา แล้วดำเนินการปรับแต่งให้เข้ากับจริตความชอบส่วนตัว เช่น การควบคุมโทนน้ำหนักอ่อน-แก่ การใช้เส้นที่เน้นระยะใกล้-ไกล เพื่อไม่ให้หลุดกรอบโครงสร้างตามหลักสุนทรียภาพที่สร้างสรรค์เป็น”ปัจจัตตัง” ซึ่งสามารถรับรู้ได้เฉพาะบุคคล

ดังนั้นผลงานชุด”บันทึกเรื่องเล่าจากเรื่องราวอีสาน”จึงเป็นการ รวบรวมเนื้อหาเรื่องราวความประทับใจเพื่อถ่ายทอดความงามทางอารมณ์ที่คลุกกรุ่นอยู่ภายใจจิตวิญญาณ สะท้อนผ่านงานสร้างสรรค์นี้ หัวใจสำคัญเพื่อต้องการให้ผู้ชม
“ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยมี และชื่นชมยินดีในสิ่งที่ไม่เคยเห็น”ศ.ดร.สามารถกล่าว
