แจ้งความเอาผิดหญิงจีนที่กล่าวหาว่าข่มขืน ฐานแจ้งความเท็จ และเบิกความเท็จในศาล ก่อนร้องขอความเป็นธรรมสภาทนายความ

“เนวินเถื่อน”แจ้งความเอาผิดหญิงจีนที่กล่าวหาว่าข่มขืน ฐานแจ้งความเท็จ และเบิกความเท็จในศาล ก่อนร้องขอความเป็นธรรมสภาทนายความหลังติดคุกฟรี 1 ปี 3 เดือน

เนวินเถื่อน-อดีตจำเลยคดีดังเมื่อปี 67 ในข่าว“ข่มขืนหญิงจีน” เดินทางเข้าร้องเรียนต่อสภาทนายความ ไปพระบรมราชูปถัมภ์ หลังถูกคุมขังนานกว่า 1 ปี ก่อนศาลพิพากษายกฟ้อง เตรียมเดินหน้าฟ้องกลับสาวจีนคู่กรณีฐานแจ้งความเท็จและเบิกความเท็จ

เปิดใจหลังพ้นมลทิน”ผมเสียอิสรภาพไป 1 ปี 3 เดือน”

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 ธ.ค.68 ที่สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (พหลโยธิน 59) นายธนภัทร คำปันพรม หรือที่รู้จักในฉายา “เนวินเถื่อน” อายุ 36 ปี ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่สภาทนายความฯ เพื่อปรึกษาขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย กรณีที่ตนเองถูกกล่าวหาในคดีข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวจีน ซึ่งเป็นข่าวอื้อฉาวเมื่อปี 2567 โดยนายธนภัทรระบุว่า ตนต้องสูญเสียอิสรภาพอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. 2567 จนกระทั่งได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2568 รวมระยะเวลากว่า 1 ปี 3 เดือน

จากผู้ต้องหาข่มขืน สู่ผู้บริสุทธิ์ เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2567 โดย Miss JJ (นามสมมติ)สาวชาวจีน ได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ว่าถูกนายธนภัทรข่มขืนกระทำชำเราและลักทรัพย์ นำไปสู่การออกหมายจับและจับกุมตัวในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องถึงชั้นศาล ศาลอาญา ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2568 (คดีหมายเลขดำที่ อ 2607/2567 คดีหมายเลขแดงที่ อ 2303/2568) ให้ ยกฟ้อง โดยระบุเหตุผลว่าพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมายังมีข้อสงสัยตามสมควร ไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าจำเลยกระทำความผิดจริงตามฟ้องหรือไม่ ศาลจึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย ตามหลักกฎหมาย

เดินหน้าฟ้องกลับสาวจีน แจ้งความเท็จ-เบิกความเท็จก่อนที่จะเดินทางมายังสภาทนายความ ในช่วงเช้าวันเดียวกัน นายธนภัทรได้เข้าพบ ร.ต.อ.พีรพงษ์ โพธิ์ศรี รอง สว.(สอบสวน) สน.พญาไท เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ Miss JJ ในข้อหา 1. แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน เพื่อให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา 2.เบิกความเท็จต่อศาล

“ผมต้องการกอบกู้ศักดิ์ศรีและเรียกร้องความยุติธรรมคืนมา เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อชีวิตและชื่อเสียงของผมอย่างมหาศาล” นายธนภัทรกล่าว

นอกจากนี้ยังได้ติดต่อขอรถ จยย.ของตนที่ถูกยึดไว้เป็นของกลาง สอบถามจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีบอกว่าเขาเอากุญแจรถติดตัวเดินทางกลับบ้านตจว.ไปด้วย ขอให้มาตนมารับกุญแจรถ จยย.กลับคืนในวันที่ 7 ม.ค.ปีหน้า

“ผมถามว่ากุญแจรถ จยย.ของกลางในคดีทำไมไม่เก็บไว้ที่โรงพักเหมือนของกลางคดีอื่นๆ ล่ะ ทำไมเอาไปไว้ส่วนตัว“ นายธรภัทร บ่นอย่างเซ็งๆ

นายธนภัทรอยู่ระหว่างการปรึกษาทีมทนายความเพื่อรวบรวมหลักฐานในการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม รวมถึงติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดีอาญากับคู่กรณีหญิงสาวชาวจีนต่อไป

About The Author

Related posts