อัจฉริยะยื่นหลักฐาน ส.ส.ชนนพัฒฐ์ ปม ฟอกเงินพันล้าน

อัจฉริยะ ยื่นหลักฐานมัดเครือข่ายฟอกเงิน ส.ส.ชนนพัฒฐ์ พบ เงินหมุนเวียนพุ่ง 15,000 ล้าน จี้ตรวจตำรวจเอี่ยว ย้ำไม่ใช่เครื่องมือใคร ปปง. ลั่นเดินหน้ายึดทรัพย์ตามพยานหลักฐาน 

วันนี้ (17 พ.ย. 68) เวลา 10.00 น.ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เดินทางมาเพื่อยื่นหลักฐานเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายการฟอกเงินของ นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว ส.ส.พรรคกล้าธรรม จังหวัดสงขลา และพวก โดยระบุว่ามีการฟอกเงินมากกว่า 1,000 ล้านบาท และยังพบเงินอีกส่วนถูกนำไปซุกซ่อนผ่านระบบคริปโต เพื่อให้ ปปง. พิจารณายึดอายัดทรัพย์ตามพยานหลักฐานใหม่ที่นำมาเสนอ

นายอัจฉริยะเปิดเผยว่า หลักฐานที่รวบรวมมาตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน พบเงินหมุนเวียนในเครือข่ายรวมกว่า 15,000 ล้านบาท โดยเฉพาะคดี “บอสตาล” ที่เชื่อว่าเงินจำนวนมากไหลเข้าถึง ส.ส.ชนนพัฒฐ์ ประมาณ 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบตำรวจอีกหลายรายมีส่วนรับเงินจากเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดถือเป็น “นิติสัมพันธ์” ที่ควรถูกนำไปใช้ประกอบการยึดอายัดทรัพย์ของ ปปง.

ครั้งนี้ตนนำหลักฐานทรัพย์สินเพิ่มเติมมามอบให้ ปปง. มูลค่ารวมประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าทรัพย์สินที่ตำรวจ สภ.สงขลา เคยส่งให้ ปปง. เพียง 36 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ ตนตั้งข้อสังเกตว่าการดำเนินคดีของตำรวจสงขลาอาจไม่ครบถ้วน และอาจต้องถูกตรวจสอบเช่นกัน แต่ย้ำว่าไม่ได้กล่าวโทษใคร เพียงต้องการให้ ปปง. ดำเนินงานให้รอบด้านตามหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวถามว่า และกรณีที่มีคลิปนายชนนพัฒฐ์ อาจจะได้กลับไปเป็นรัฐมนตรีหลัง “เคลียร์คดี” ว่าเป็นพฤติกรรมไม่รับผิดชอบ และเป็นการท้าทายกฎหมาย และมีการตกลงกับผู้มีอำนาจหรือไม่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ มองว่าหากเป็นผู้บริสุทธิ์ควรใช้เวลาในการพิสูจน์หลักฐาน ไม่ใช่ออกมาพูดสร้างความหวังกับประชาชน และอยากเห็นว่าจะยังมีใครออกมาปกป้อง ส.ส.รายนี้อีกหรือไม่

และตนจะยื่นเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ กรณีที่เคยแถลงจับเว็บพนันกว่า 2,000 คดี แต่พบว่าเพียง 10% ของคดีเหล่านั้นถูกส่งให้ ปปง. ยึดอายัดทรัพย์ ขณะที่ผู้ต้องหาหลายรายกลับได้ของกลางกลับไปใช้ รวมถึงบางคดี เช่น รถยนต์หรู และคดีของ “เอ็ม อภิชาติ” พบว่าผู้ต้องหายังคงกลับมาใช้ชีวิตปกติในสังคม และมีกระบวนการภายในตำรวจไซเบอร์ที่จัดหาอัยการ ทนาย และจัดการทรัพย์สินให้ผู้ต้องหานอกเหนือการตรวจสอบของ ปปง.

ส่วนกรณี พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ที่มีการตั้งข้อสงสัยเรื่องการพนันมวย นายอัจฉริยะยืนยันว่าตนเป็นโปรโมเตอร์มวยถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เคยล้มมวย และไม่เคยเล่นพนันมวยมูลค่า 12 ล้านบาท พร้อมเปิดเผยว่าแม้จะทำงานช่วยประชาชน ตรวจสอบผู้มีอิทธิพลจนถูกฟ้องรวมกว่า 300 คดี แต่ไม่ประสงค์จะฟ้องกลับ และย้ำว่าไม่ได้เป็นเครื่องมือของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจ

ด้านสำนักงาน ปปง. โดยนายสุทธิศักดิ์ สุมน รองโฆษกฯ ยืนยันว่า ข้อมูลใหม่ที่ได้รับจะถูกนำไปตรวจสอบอย่างละเอียด หากพบเส้นทางเงินหรือทรัพย์สินเกี่ยวข้องการกระทำผิด จะดำเนินการยึดอายัดทั้งหมดตามกฎหมาย พร้อมชี้แจงว่า ปปง. ยึดทรัพย์ตามพยานหลักฐาน ไม่ใช่ตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ใด และทุกขั้นตอนจะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการจากหลายสาขาอาชีพ นอกจากนี้ยังมั่นใจว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกลับมาได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะอยู่กับตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือประชาชนทั่วไป

 

 

About The Author

Related posts