
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น., พล.ต.ต. วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น, พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ฤทธี ปานดำ รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 ฯ ,พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ ,พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1ฯ
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจาก กก.สืบสวน ๑ บก.สส.บช.น. ร่วมกับตำรวจสืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์ได้ร่วมกันจับกุมตัว
๑. นางสาวหนุ ดงนางรัมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ ๑๔๔๑/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๘
๒. นางสาวสุดนภา พลสุโพธิ์ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ ๑๔๔๐/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๘

โดยได้กระทำความผิด
ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น , ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเอตร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 68 เลขคดีอาญาที่ 452/2568 ของ สน.หนองจอกนักศึกษามหาวิทยาลัยวัย 22 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้กลอุบายหลอกลวงอย่างแนบเนียน จนสูญเสียเงินเก็บทั้งหมดกว่า 2.3 ล้านบาท
ผู้เสียหายให้การว่า ได้รับโทรศัพท์จากมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสม็ด แจ้งว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ กลุ่มคนร้ายได้ส่งเอกสารราชการปลอมหลายฉบับมาให้ทางแอปพลิเคชัน LINE ประกอบด้วย คำสั่งศาลจังหวัดชลบุรีที่มีชื่อของผู้เสียหาย และคำสั่งจาก ปปง. ที่มีลายเซ็นเลขาธิการ
ที่สำคัญ เพื่อให้ผู้เสียหายเชื่อใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง มิจฉาชีพได้ให้ผู้เสียหายโอนเงินจำนวน 250 บาท ไปยังบัญชีธนาคารชื่อ “สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ จำกัด” เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถืออย่างยิ่งให้แก่ผู้เสียหาย
ด้วยความตกใจและหลงเชื่อในเอกสารดังกล่าว ผู้เสียหายจึงยอมโอนเงินทั้งหมดในบัญชีเพื่อ “ตรวจสอบความบริสุทธิ์” ตามที่คนร้ายบอก โดยได้โอนเงินรวม 6 ครั้ง เป็นยอดเงินทั้งสิ้น 2,301,000 บาท ไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ ที่คนร้ายระบุ ดังนี้:
• บัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี น.ส.เมธิญา พัฒน์มาก
• บัญชีธนาคารกรุงเทพ ชื่อบัญชี น.ส.สุดนภา พลสุโพธิ์
• บัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชื่อบัญชี นายศรายุทธ หมื่นสิน
• บัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี น.ส.วราภรณ์ คำภาสุข
• บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี น.ส.มาริสา ดีศรีสุข
• บัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี น.ส.สิริขวัญ แย้มมูล
หลังจากโอนเงินจนหมดบัญชีแล้ว กลุ่มมิจฉาชีพได้พยายามเรียกร้องให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มอีก จึงทำให้ผู้เสียหายตระหนักว่าตนถูกหลอกลวง เมื่อพยายามติดต่อกลับไปก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน ๑ บก.สส.บช.น ได้ร่วมกับสถานีตำรวจนครบาลหนองจอก และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์ ดำเนินการสืบสวนขยายผลจนทราบว่า กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวมีการจัดตั้งเป็นองค์กรอาชญากรรมเครือข่าย(คอลเซ็นเตอร์) โดยจากการสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานพบว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิดจำนวน ๑๖ ราย โดยมี MR. ZHOU CHONG สัญชาติจีน เป็นบุคคลที่เชื่อว่าเป็นหัวหน้าขบวนการ
ความคืบหน้าในการดำเนินคดี เจ้าหน้าที่สามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วจำนวน 5 ราย คือ และล่าสุดในวันนี้ (30 ตุลาคม ๒๕๖๘) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน ๑ บก.สส.บช.น. และตำรวจสืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก ๒ ราย ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ดังนี้

๑. นางสาวหนุ ดงนางรัมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ ๑๔๔๑/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๘
๒. นางสาวสุดนภา พลสุโพธิ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ ๑๔๔๐/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๘
เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายส่งพนักงานสอบสวนสน.หนองจอก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ดำเนินการติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่ยังหลบหนีต่อไป
สถานที่จับกุม 147 หมู่ที่ 2 ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ และ สถานีตำรวจภูธรแคนดง ตามลำดับ
นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พงส.สน.หนองจอก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
