เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 ตุลาคม 2568 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง น.ส.มัลลิกา กล่ำทวี อายุ 30 ปี ได้เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมกับ “จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่” อดีต สห.ทอ.หลังนายสุธินันท์ สองสี อายุ 33 ปีพี่ชายนอนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ บ้านแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ภายใน หมู่ 9 ต.ปกาสัย อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ โดยไม่ทราบสาเหตุ นั้น
โดย น.ส.มัลลิกา น้องสาวผู้เสียชีวิต เผยว่า เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา พี่ชายคนรองได้โทรศัพท์มาบอกกับตนว่า พบร่างของนายสุธินันท์ ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตของตนนอนเสียชีวิตอยู่ภายหลังบ้านพักของเถ้าแก่พี่ชาย
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ทางครอบครัวพบว่า สภาพศพของพี่ชายนั้น คล้ายถูกทำร้ายเสียชีวิต ซึ่งบริเวณลำคอของพี่ชายมีบาดแผลคล้ายถูกอาวุธบางอย่างแทงเข้าไป รวมถึงบริเวณท้ายทอยก็พบรอยช้ำผิดปกติเหมือนถูกทุบตี จึงทำให้ทางครอบครัวคาดการณ์ว่า พี่ชายอาจจะถูกฆ่า
แต่จากการสอบถามเถ้าแก่ ซึ่งเป็นนายจ้างของพี่ชาย ได้ยืนยันว่า พี่ชายของตนเสียชีวิตเอง ไม่มีใครทำร้ายร่างกาย รวมถึงทางตำรวยยังยืนยันกับทางครอบครัวว่า บาดแผลที่พบบนร่างของผู้ตายนั้น อาจจะเกิดจากการ”สัตว์แทะ” ก็เป็นได้ แต่ตนไม่เชื่อว่า พี่ชายตนจะเสียชีวิตเอง เพราะก่อนหน้านี้พี่ชายตนเคยบอกว่า มีเรื่องกับลูกชายเถ้าแก่เป็นประจำ และเคยถูกทำร้ายร่างกายหลายครั้ง ประกอบกับ เมื่อช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาทางพี่ชายได้มีการแชทข้อความมาบอกในทำนองว่า “ ถ้าพี่เป็นอะไรไป คนคนชื่อวาเป็นคนทำ เพราะมีปัญหากัน ”
ที่ผ่านมา เท่าที่ตนทราบ พี่ชายตนนายวาทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะไปแจ้งความหรือดำเนินการเอาผิดแต่อย่าง เพราะไม่อยากมีปัญหา
ส่วนตัวตนได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่ชายครั้งล่าสุดเมื่อช่วงประมาณ 4-5 วันเกิดเหตุ พี่ชายได้มีการโอนเงินมาให้ตน แต่ก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง
นอกจากนี้ หลังจากที่พี่ชายตนเสียชีวิต ทางเจ้าของบ้านไม่อนุญาตให้ญาติเข้าไปในพื้นที่บ้านพักของพี่ชาย เนื่องจากไม่พอใจที่พี่ชายคนรองไปกล่าวหาว่า คนในครอบครัวฆ่าพี่ชายตนเสียชีวิต จึงทำให้ทางญาติไม่สามารถเก็บข้าวของของใช้ส่วนตัวของพี่ชายออกมาได้เลย
ในขณะเดียวกัน ทางเถ้าแก่ของพี่ชายได้มีการเผาเพลิงที่พักของพี่ชายซึ่งเป็นจุดที่พบศพ โดยอ้างว่ายังไม่สามารถทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่ตนรู้สึกติดใจ และไม่มั่นใจว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเป็นการทำลายพยานหลักฐานหรือไม่
ทั้งนี้ สำหรับในส่วนด้านคดีนั้น ตนไม่มั่นใจว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดคดีไปแล้วหรือไม่ เนื่องจากพี่ชายคนรองได้มีการเซ็นรับจบคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงตนอยากสอบถามข้อมูลจากทางเจ้าที่ตำรวจว่า เหตุใดถึงยังไม่มีการเงินสร้องทองของพี่ชายที่พบในที่เกิดเหตุมาให้ญาติทางครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้งที่คดีจบแล้ว
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าตนจะทำฌาปนกิจร่างพี่ชายไปแล้ว เพราะไม่มีเงินที่จะชันสูตรศพร่างของพี่ชาย แต่ตนกับทางครอบครัวยอมรับว่า ยังรู้สึกติดใจ และคาใจกับการเสียชีวิตของพี่ชาย จึง ตัดสินใจเดินทางมาร้องทุกข์กับจ่าคิงให้ช่วยเหลือพี่ชาย และอยากร้องขอความเป็นธรรมให้กับพี่ชายที่เสียชีวิต
ในขณะจ่าคิงส์ เผยว่า หลังจากที่ตนได้รับเรื่องร้องขอความเป็นธรรมจากทางน้องสาวผู้เสียชีวิต จึงตัดสินใจพาครอบครัวผู้เสียชีวิตมาร้องขอความเป็นธรรมที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยทางครอบครัวรู้สึกติดใจกันเสียชีวิตของนายสุธินันท์ (พี่ชาย) ซึ่งตามพยานหลักฐานต่างๆทางกองพิสูจน์หลักฐานได้ระบุว่า ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิต แต่ทางเจ้าที่ตำรวจระบุความเห็นว่า ร่องรอยบาดแผลเกิดจากการสัตว์แทะ จึงทำให้ทางครอบครัวติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งตนอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามประสานงานคดีดังกล่าวร่วมกับสภ.คลองเหนือ เพื่อหาข้อเท็จจริงกับการเสียชีวิตของพี่ชายผู้เสียหาย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.ได้ให้ น.ส.มัลลิกา เข้าพบผู้กำกับ กก.5 บก.ป. เพื่อหาทางช่วยเหลือตามกฎหมายต่อไป