กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.3 บก.ทล., พ.ต.ท.ตุลยวัต เมืองทอง, พ.ต.ท.สมบูรณ์ เอื้อสมานไมตรี รองผกก.3 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สวญ.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล., พ.ต.ต.บดี ดวนพล สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล.,ร.ต.อ.ภิเชศ นาเมืองรักษ์ รองสว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. พร้อมข้าราชการตำรวจ ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. , ส.ทล.1 กก.4 บก.ทล. และ ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา 11 ราย ดังนี้
1. นายกฤษณะ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี สัญชาติ ไทย
2. นายบุญญาฤทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี สัญชาติ ไทย
3. นางสาวสิริวรรณ(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี สัญชาติ ไทย
4. นางสาวนุศรา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี สัญชาติ ไทย
5. นางสาวศศิมา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี สัญชาติ ไทย
6. นายณรงค์ศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี สัญชาติ ไทย
7. นางสาวหนึ่งธิดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี สัญชาติ ไทย
8. นายสุภชาติ(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี สัญชาติ ไทย
9. นางสาวกัญญา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี สัญชาติ ไทย
10. นางสาวบี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี สัญชาติ ไทย
11. นางสาวรจนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี สัญชาติ ไทย
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรี ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลเท็จหรือข้อมูลปลอมโดยมีเจตนาที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ร่วมกันนำเข้าหรือส่งออกของที่ยังไม่ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปโดยไม่รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานศุลกากรและซ่องโจร”
พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์ยี่ห้อ NISSAN รุ่น ALMERA สีแดง ทะเบียน กาฬสินธุ์ พร้อมกุญแจ 1 ดอก
สถานที่จับกุม ในพื้นที่ ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ , ต.สามขา อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์, ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี ,ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี, ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และ ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.นครปฐม
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ก.ค.68 ผู้เสียหายเดินทางมายังสถานีตำรวจทางหลวงชลบุรี เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีถูกหลอกลวงจากขบวนการรับจำนำรถ และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.หนองขาม ว่าได้นำรถยนต์ของตนยี่ห้อ FORD รุ่น RANGER สีเทา ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ติดต่อจำนำผ่านเพจ เฟซบุ๊กชื่อ “ลักกี้ ออโต้คาร์ จำนำฝากจอดรถ” เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.68 โดยส่งมอบรถบริเวณลานจอดร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จากนั้นผู้เสียหายได้ทราบว่า รถยนต์คันดังกล่าวจะถูกนำไปส่งขายยังประเทศเมียนมา จึงพยายามติดต่อเพจดังกล่าวเพื่อขอไถ่รถคืน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำการสกัดจับกุม จนทราบว่ารถคันดังกล่าวนั้นได้ถูกเปลี่ยนป้ายทะเบียน และนำออกผ่านชายแดนไปขายประเทศเมียนมาแล้ว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชลบุรีได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่ามีการทำกันเป็นขบวนการ โดยมิจฉาชีพกลุ่มนี้ใช้สื่อออนไลน์ในการหารถ ที่มีสเปกตามความต้องการของนายทุนประเทศเมียนมา โดยจะนำมาดัดแปลงและส่งขายข้ามพรมแดนต่อไป พบว่ามีการกระทำความผิดในลักษณะเครือข่ายใหญ่ มีการแบ่งหน้าที่ออกเป็นหลายหน้าที่ด้วยกัน ดังต่อไปนี้
1.กลุ่มเปิดเพจ/นายทุน
2.กลุ่มรับจ้างหารถ/รับรถตามจุดต่างๆ
3.กลุ่มรับจ้างขับรถ
4.กลุ่มนายทุนที่รับรถมาส่งยังชายแดน
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้จัดทำข้อมูล รวบรวมพยานหลักฐาน และประสาน สภ.หนองขาม ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 12 ราย
กระทั่งวันที่ 8 ต.ค.68 เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังนำโดยสถานีตำรวจทางหลวงชลบุรี ร่วมกับตำรวจ ทางหลวงกาญจนบุรี, ตำรวจทางหลวงกาฬสินธุ์, ตำรวจทางหลวงขอนแก่น และตำรวจทางหลวงนครปฐม เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งหมด 11 ราย หลบหนี 1 ราย โดยแบ่งออกเป็นพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ 6 ราย, จังหวัดกาญจนบุรี 4 ราย และจังหวัดนครปฐม 1 ราย พร้อมทั้งตรวจยึดรถยนต์ยี่ห้อ NISSAN รุ่น ALMERA สีแดง ทะเบียน กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นรถที่ผู้ต้องหาใช้ในการออกตระเวนหารถและรับรถเพื่อไปขายส่งให้กับนายทุน จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองขาม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อนึ่งพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้ใช้รถยนต์ยี่ห้อ MAZDA สีเทา ทะเบียน ร้อยเอ็ด เป็นรถลำเลียง/นำพาในการนำรถยนต์ของผู้เสียหายไปยังชายแดน จากการขยายผลพบว่าช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค.68 มีการนำรถยนต์จากประเทศไทยส่งขายพรมแดน จำนวน 8 คัน นอกจากนี้ยังพบว่ามีรถยนต์คันอื่นในเครือข่ายที่กระทำในลักษณะเดียวกัน ในช่วงเดือน พ.ค.- ส.ค.68 ลำเลียง/นำพารถยนต์ไปส่งชายแดนจำนวน 17 คัน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยพี่น้องประชาชนที่ต้องการซื้อขายรถยนต์ดังนี้
1. การซื้อขายหรือการเปลี่ยนมือของรถ จะต้องมีการโอนผ่านทางทะเบียนที่กรมการขนส่ง ทางบกหรือขนส่งจังหวัดเท่านั้น
2. การจำนำรถ ต้องตรวจสอบหาข้อมูล ความน่าเชื่อถือ ของแหล่งรับจำนำว่ามีการขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
3. การซื้อขายหรือรับจำนำรถผ่านเพจเฟซบุ๊ก อาจเสี่ยงต่อการถูกหลอกหรือนำรถไปขายต่อโดยไม่ได้รับอนุญาตยังประเทศเพื่อนบ้าน
4. รถยนต์เป็นยานพาหนะที่เปลี่ยนมือได้ง่าย ดัดแปลงได้ง่าย และอาจถูกนำไปขายโดยไม่ทราบแหล่งที่มาที่ไปของรถ ซึ่งยากต่อการติดตาม
และสำหรับผู้ใดที่ได้รับความเสียหายจากกลุ่มผู้ต้องหารายดังกล่าว สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ สภ.ในพื้นที่ หรือ แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเพจเฟซบุ๊ก “ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)”
จากการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชลบุรีได้ติดต่อประสานกับผู้เสียหายเพื่อแจ้งว่าสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายหลอกลวงจำนำรถมาเนินคดีได้ ทั้งนี้ ผู้เสียหายแสดงความขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชลบุรี ที่ได้ดำเนินการตรวจสอบ ติดตาม และประสานงานอย่างเต็มความสามารถ จนสามารถติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีได้
ช่องทางการติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สวญ.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล.
เบอร์โทร 085-3692956