เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 ต.ค.68 ที่ รัฐสภา นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความและประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เพื่อขอให้สภาฯ เข้ามาช่วย ปราบปรามกลุ่มมิจฉาชีพที่อ้าง “พญานาค” และ “ร่างทรง” หลอกลวงชาวพุทธให้เกิดความหลงเชื่อและแสวงหาผลประโยชน์อย่างมหาศาลจากประชาชน
นายรณรงค์ เปิดเผยว่า การยื่นเรื่องครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากมีกลุ่มบุคคลแอบอ้าง อุตริ หลอกลวงประชาชนที่กำลังแสวงหาทางหลุดพ้นตามหลักธรรมของศาสนาพุทธ โดยนำเรื่องเหล่านี้ไปโยงกับ พญานาคและร่างทรง ทำให้ชาวบ้านที่ศรัทธาต้องถูกหลอกให้บริจาคและซื้อของที่ไม่สมเหตุสมผล
“มีคนถูกหลอกให้ซื้อของที่ไม่ควรต้องซื้อ เช่น ลูกแก้ว ในแอปพลิเคชันช้อปปิ้งขายแค่ 200 บาท แต่พวกร่างทรงนำมาขายให้ประชาชนในราคา 5 หมื่นบาท”
นายรณรงค์กล่าว พร้อมเสริมว่ายังพบกรณีประชาชนต้องผ่อนชำระเครื่องรางของขลัง ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และบางคนตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว สูญเสียทั้งเงินทองและทรัพย์สินจำนวนมาก แต่ไม่กล้าออกมาร้องเรียน
นอกจากนี้ ยังมีการกระซิบบอกว่ามีการสร้างสถานการณ์ เช่น อ้างว่าจะมีแผ่นดินไหว เพื่อให้คนแตกตื่น หรือหลอกให้ไปบูชาองค์เทพ เทวดา และชักชวนให้เข้าวัดบริจาค แต่เงินกลับไม่เข้าวัดจริง
“วันนี้จึงต้องมาขอพึ่งทางสภาฯเพื่อหาทางออกให้กับสังคมด้วย ซึ่งเรารับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้บ่อยมาก แต่เจอปัญหาว่ากฎหมายบางข้อยังไปไม่ถึงผู้กระทำเขา เขาก็เลยยิ้มเยาะเย้ยพวกเรา ว่าพวกเราโง่เองที่ไปหลงเชื่อ จึงต้องมาพึ่งกลไกลของรัฐที่จะปกป้องพวกเราด้วย” ทนายรณรงค์เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่รัฐต้องเข้ามาจัดการ
ด้านนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง กล่าวว่า ตนยินดีรับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณา และจะให้คณะที่ปรึกษาทางกฎหมายตรวจสอบว่า เรื่องร้องเรียนนี้สามารถเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่เกี่ยวข้องคณะใดได้บ้าง เนื่องจากทราบว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลายส่วน ทั้งศาสนา กฎหมาย และการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งจะต้องมีการตกลงร่วมกันว่าจะเข้ากมธ.คณะใด หรือจะดำเนินการอย่างไรเพื่อสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างแท้จริง
About The Author
