กาญจนบุรี – เมื่อวันที่ 5 ต.ค.68 จากเหตุการณ์สุดระทึก สิงโตเพศเมีย สัตว์เลี้ยงของหนุ่ม ดาว TikTok ชื่อดัง หลุดออกจากบ้านและทำร้ายเด็กชายวัย 11 ปีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และมีชาวบ้านที่เข้าช่วยเหลือถูกทำร้ายเพิ่มอีก 1 ราย ในพื้นที่บ้านรางขาม ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อค่ำวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ได้สั่งการให้ดำเนินการกับเจ้าของสิงโตอย่างเด็ดขาดโดยไม่ละเว้น พร้อมสั่งยึดสิงโตและให้เรียกเก็บ ค่าเลี้ยงดูตลอดชีวิต
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.45 น. ของวันที่ 4 ตุลาคม 2568 บริเวณข้างทางสาธารณะของหมู่บ้านรางขาม โดยสิงโตที่ถูกเลี้ยงไว้ในบ้านและถูกล่ามโซ่ไว้ลักษณะเดียวกับการเลี้ยงสุนัข ได้หลุดออกมาทำร้าย เด็กชายอายุ 11 ปี จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมีรายงานว่าเด็กชายถูกสิงโตตะปบกัดบริเวณสะโพกขวาเป็นแผลฉกรรจ์ถึงเนื้อหลุด และถูกนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ลาดหญ้า ก่อนจะถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสินแพทย์กาญจนบุรี นอกจากนี้ ยังมีชาวบ้านวัย 43 ปี ที่เข้าไปช่วยถูกข่วนที่ขา เย็บ 4 เข็ม แต่มีอาการปลอดภัยและกลับไปพักฟื้นที่บ้านแล้ว
ชาวบ้านในพื้นที่ต่างแสดงความวิตกกังวลเป็นอย่างมากต่อความปลอดภัยในชุมชน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า รมว.ทส. นายสุชาติ ชมกลิ่น ได้รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ดำเนินคดีกับเจ้าของสิงโตรายนี้อย่างเด็ดขาด พร้อมสั่ง ยึดสิงโตเพศเมีย ตัวดังกล่าวเพื่อนำไปดูแลในสถานที่ที่เหมาะสม โดยสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีการเตรียมสถานที่เพื่อรองรับแล้ว นอกจากนี้ยังสั่งให้เรียกเก็บค่าเลี้ยงดูสิงโตตลอดชีวิตจากเจ้าของ เพื่อเป็นบทเรียนให้แก่ผู้ที่ต้องการจะเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความปลอดภัยของผู้อื่น
เบื้องต้น นายปริญญา (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของสิงโต ถูกแจ้งข้อหาฐานมีความผิดตาม พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 15 ที่ระบุว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดปล่อยสัตว์ป่าคุ้มครองจากการดูแลของตนให้เป็นอิสระ หรือหลุดพ้นจากการดูแลของตน” ซึ่งผู้กระทำผิดจะต้องได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรมอุทยานแห่งชาติฯ ยืนยันว่าจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ฝ่าฝืน และขอเตือนไปยังผู้ที่เลี้ยงสัตว์ดุร้ายให้ตระหนักถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากสัตว์ทุกตัวมีสัญชาตญาณของความดุร้าย หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่กระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นจะถูกลงโทษและดำเนินคดีทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด