ภายหลังสอบปากคำสีกายุ นานกว่า 1 ช.ม. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยว่า เป็น…
Read Moreหมวดหมู่: ข่าวอาชญากรรม
ปอศ.ทลายแหล่งส่งออก “นาฬิกาปลอมเกรดพรีเมี่ยม” กลางกรุง ยึดกว่า 800 เรือน มูลค่าความเสียหายทะลุ 50 ล้านบาท กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เดินหน้ากวาดล้างสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บุกทลายแหล่งจำหน่ายนาฬิกาปลอมแบรนด์หรู ย่านสัมพันธวงศ์ กลางกรุงเทพมหานคร ยึดของกลางรวมกว่า 809 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 50 ล้านบาท พร้อมรวบผู้ต้องหาได้ 3 ราย การเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เป็นไปตามการสืบทราบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. ว่ามีการลักลอบจำหน่ายนาฬิกาปลอมเครื่องหมายการค้า โดยโฆษณาขายผ่านช่องทางออนไลน์และเว็บไซต์ในราคาสูงถึง “เรือนละกว่าสองหมื่นบาท” อ้างเป็น “นาฬิกาเกรดท็อปสุด” ที่เหมือนของแท้ โดยมีพฤติการณ์ส่งออกไปยังต่างประเทศ ปฏิบัติการค้น 3 จุด ยึดของกลางกว่า 20 แบรนด์หรู ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปอศ. พร้อมด้วยตัวแทนผู้ปกป้องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา ได้นำหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าตรวจค้นร้านค้าไม่มีชื่อในอาคารตลาดกลางกรุง ย่านสัมพันธวงศ์ จำนวน 3 จุดตรวจค้น ผลการตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย น.ส.จิรัฏฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี, นายชาตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี, และ นายมนัสพันธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี โดยทั้ง 3 รายรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดนาฬิกาปลอมเครื่องหมายการค้าไว้เป็นของกลางรวมจำนวน 809 ชิ้น ครอบคลุมแบรนด์หรูระดับโลกกว่า 20 รายการ อาทิ TAG Heuer, Panerai, Patek Philippe, Rolex, Hublot, Omega, Audemars Piguet, Louis Vuitton และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งนาฬิกาส่วนใหญ่ถูกซุกซ่อนไว้ภายในร้านค้าดังกล่าว ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกดำเนินคดีในฐานความผิด “มีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร” และถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป CIB เตือนภัยซื้อ “นาฬิกาปลอม” เสี่ยงต่อสุขภาพ ทรัพย์สิน และเป็นภัยต่อเศรษฐกิจ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ออกมาเน้นย้ำถึงอันตรายของการซื้อและจำหน่ายนาฬิกาปลอม โดยระบุว่าปัญหาดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง ไม่เพียงแต่ต่อความเสียหายทางเศรษฐกิจในระดับมหภาคและภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของการลงทุนในระดับนานาชาติ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อผู้บริโภคด้วย -ภัยต่อสุขภาพ นาฬิกาปลอมมักผลิตจากวัสดุคุณภาพต่ำ ซึ่งอาจมีสารเคมีหรือโลหะที่ก่อให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองผิวหนัง -ความเสียหายทางทรัพย์สิน สินค้าเหล่านี้มีความทนทานต่ำ ชำรุดง่าย และไม่มีการรับประกันที่น่าเชื่อถือ ทำให้ผู้ซื้อต้องมีภาระค่าใช้จ่ายซ้ำซ้อนในการซ่อมแซมหรือซื้อใหม่ -สนับสนุนอาชญากรรม การซื้อสินค้าปลอมเป็นการสนับสนุนห่วงโซ่อาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและธุรกรรมผิดกฎหมายระดับสากล ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ CIB ยืนยันว่า จะดำเนินการกวาดล้างสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวด และขอความร่วมมือประชาชน หากพบเบาะแสการจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมในลักษณะเดียวกัน สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ เว็บไซต์ https://cib.go.th/ หรือ Facebook ตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อร่วมกันสร้างความตระหนักรู้และป้องกันภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเ…
Read More“สีกายุ” ให้ปากคำรอบ 2 แจงปมเงิน 12 ล้าน-หวาดผวาชายฉกรรจ์บุกบ้านต่างจังหวัด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ต.ค.68 ที่ บช.ก.“สีกายุ” หรือ นางสาวกัญญาภัค ชไนเดอร์ พร…
Read Moreตร.รวบ “ปุ้ย ห้วยขวาง” แทงเพื่อนสนิทดับคาที่ แค้นถูกด่า”จน” – ตร.เร่งสอบหาสาเหตุจริง
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 68 ตำรวจสืบสวน สน.ดินแดง ได้จับกุมตัว นายเอกสิทธิ์ หรือ “ปุ้ย ห้ว…
Read MoreCIB ทลายแหล่งปลอม “กาวตราช้าง” ยกเครือข่าย! ค้น 6 จุด ยึดของกลางกว่า 2.1 หมื่นชิ้น มูลค่า 1.5 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ปฏิบัติการทลายเครือข่ายผลิตและจำหน่ายกาววิทยาศาสตร์อีพ็อกซี่ (กาวตราช้าง) ปลอมเครื่องหมายการค้า ALTECO ครั้งใหญ่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกป้องสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาของแบรนด์สินค้า การปฏิบัติการครั้งนี้ได้เข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมายที่เกี่ยวข้องกันจำนวน 6 จุด ในพื้นที่อำเภอเมืองสมุทรสาคร และอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร โดยสามารถจับกุม นายสรสิชฯ (สงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี ผู้ต้องหา ซึ่งให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ตรวจยึดของกลางจำนวนมากและกลวิธีสร้างความน่าเชื่อถือปลอม จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดของกลางรวมทั้งสิ้น 21,894 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 1,500,000 บาท ประกอบด้วย กาววิทยาศาสตร์อีพ็อกซี่ (กาวตราช้าง) ปลอมเครื่องหมายการค้า ALTECO และกล่อง/บรรจุภัณฑ์ที่ปลอมเครื่องหมายการค้า ALTECO พฤติการณ์และฐานความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. ได้สืบสวนติดตามกลุ่มบุคคลที่ตระเวนขายส่งกาวปลอมยี่ห้อ ALTECO ให้แก่ร้านค้าปลีกทั่วไป จนนำมาสู่การขอหมายค้นจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเข้าตรวจค้น 6 จุดพร้อมกัน สิ่งที่น่าสนใจคือการตรวจสอบของกลางสินค้าปลอม เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหาได้มีการใส่กระดาษประกาศเตือนของปลอม พร้อมทั้งแอบอ้างให้รางวัลนำจับสำหรับผู้ที่ให้เบาะแส และมีวิธีสังเกตสินค้าปลอม (ที่สร้างขึ้นเอง) ใส่ไว้ในลังสินค้า เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความแนบเนียนให้กับตัวสินค้า ทั้งที่สินค้าที่ตรวจยึดนั้นเป็นของปลอมทั้งหมด การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน “มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมและเลียน เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร” ตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 CIB เตือนภัยและผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ออกมาเตือนภัยถึงอันตรายของการใช้กาววิทยาศาสตร์อีพ็อกซี่ปลอม เนื่องจากสารเคมีที่ใช้ในการผลิตอาจไม่มีการตรวจสอบมาตรฐาน อาจมีสารก่อมะเร็ง และทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ซึ่งส่งผลเสียต่อผู้บริโภคโดยตรง นอกจากนี้ การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเช่นนี้ ยังส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ทั้งการลดรายได้จากภาษี, กระทบต่อผู้ประกอบการและแรงงานที่สุจริต, รวมถึงการบ่อนทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในระบบอุตสาหกรรมของประเทศ CIB ยืนยันว่าจะดำเนินการกวาดล้างสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวด ขอความร่วมมือประชาชน CIB ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าปลอม และร่วมมือกับภาครัฐในการแจ้งเบาะแส หากพบเห็นการจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง Website : https://cib.go.th/ หรือ Facebook ตำรวจสอบสวนกลาง
กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ปฏิบัติการทลายเค…
Read More“สีกายุ” หอบหลักฐานพบตำรวจ ปปป. ยืนยันเงิน 12.2 ล้านไม่ได้อยู่ในบัญชีวัด แต่ถูกพระคึกฤทธิ์นำไปลงทุนในกองทุน ซึ่งปัจจุบันขาดทุนอยู่ 1 หมื่นยูโร หรือ 3.8 แสนบาท พร้อมยืนยันไม่ได้ยักยอกเงิน มีเอกสารรับรองจากรัฐบาลเยอรมัน ส่วนเหตุแตกคอเพราะรับไม่ได้ที่พระคึกฤทธิ์ไม่ยอมให้ออกใบปวารณาให้ผู้บริจาค
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 68 ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สีกายุ หรือ สีกาพลอย หรือ น.ส.กัญญาภั…
Read Moreตะลึง! กล่องลังผลไม้กลายเป็นบุหรี่เถื่อน: บก.ปคบ. ทลายเครือข่ายลักลอบขายผ่านออนไลน์ ยึดของกลางกว่า 5 ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค …
Read Moreรวบ ‘ม้าตัวแม่’ เครือข่ายฟอกเงินข้ามชาติ! เงินหมุนเวียนทะลุ 5 พันล้าน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ …
Read Moreไวรัลประจำปี! “ผู้การอ้อ” รองโฆษก ตร. เตือนภัย 3 สิ่งที่ “ตำรวจจริง” จะไม่ทำ ยอดวิวพุ่งกว่า 2 ล้านครั้ง
วันที่ 1 ต.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกระแสไวรัลบนโลกออนไลน์ เมื่อคลิปเตือนภัยจาก พล.ต.ต.ศิ…
Read Moreหนุ่มชักมีดเดินเข้ามาแทง โดนปืนยิงสวนดับ หน้าแฟลตคลองจั่น ตำรวจสืบสวนตามรวบมือปืนบาดเจ็บที่ รพ.
วันที่ 1 ต.ค.68 เมื่อเวลา 00.30 น. ร.ต.ท.ภานุวัตน์ ไทยใหม่ รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ลาดพร้าว …
Read More